Just for You

แนะนำ 10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2022

เครื่องฟอกอากาศ ตัวช่วยในการ เนรมิตอากาศที่บริสุทธิ์  เนื่องจาก สภาพแวดล้อมในปัจจุบันมีความเป็นมลภาวะสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะทางน้ำ มลภาวะทางดิน มลภาวะทางเสียง หรือมลภาวะทางอากาศ นับวันปัญหามลภาวะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหามลภาวะทางอากาศ มีการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการตัดไม้ทำลายป่า เผาป่า มากขึ้นด้วย เมื่อปราศจากต้นไม้ ก็ไม่มีสิ่งใดมาฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ เมื่ออากาศสกปรก อาจเป็นบ่อเกิดของโรคระบบทางเดินหายใจหลายชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหลอดลมอักเสบ เป็นต้น ดังนั้น ตัวเลือกที่ดีประการหนึ่ง คือ การเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศในอาคารบ้านเรือน ห้องพัก หรือสำนักงาน ซึ่งแต่ละแบรนด์มีประสิทธิภาพในการทำให้อากาศบริสุทธิ์แตกต่างกันไป เมื่อใช้งานแล้ว จะทำให้อากาศบริเวณนั้นๆ มีความสะอาดมากขึ้น สามารถหายใจได้อย่างสบาย หายใจได้อย่างเต็มปอด ปัจจุบันมีแบรนด์เครื่องฟอกอากาศมากมาย ผู้ใช้ต้องเลือกเครื่องที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ตนเองต้องการ รวมทั้งควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5


เครื่องฟอกอากาศ กรองฝุ่น กรองอากาศบริสุทธิ์
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee

เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier หรือ Air Cleaner) คือ 

เครื่องที่ช่วยในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมในอากาศเช่น ฝุ่น แบคทีเรีย เชื้อโรค รวมถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อย่างเช่น กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอับ กลิ่นเหม็นในบ้านให้หายไป โดยเครื่องกรองอากาศจะดูดอากาศเข้าเครื่องผ่านตัวกรองเพื่อดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศเอาไว้ และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาแทน เป็นที่ทราบกันดีว่าสภาพอากาศบ้านเราในตอนนี้ทั้งฝุ่นและควันพิษในอากาศมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และขนาดของฝุ่นนั้นก็เล็กลงขึ้นด้วยตัวอย่างเช่น PM2.5 แม้หน้ากากดักฝุ่นที่เราใส่ก็ยังไม่สามารถดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็กขนาดนี้ได้ ดังนั้นอีกวิธีในการแก้ปัญหาอีกวิธีหนึ่ง คือการเลือกซื้อ “เครื่องฟอกอากาศ” มาใช้งานเพื่อที่จะช่วยลดฝุ่นและกำจัดเชื้อโรคในบ้านของเราได้ปัจจุบันเทคโนโลยีใน เครื่องฟอกอากาศ พัฒนามากขึ้นเพื่อสร้างเครื่องมือมาช่วยทำความสะอาดให้อากาศ สดชื่น มากยิ่งขึ้น 


เครื่องฟอกอากาศ มีกี่ประเภท ?

  1. เครื่องฟอกอากาศแบบไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Purifiers ) ทำงานโดยปล่อยกระแสไฟฟ้าไปจับอนุภาคของฝุ่นไปที่แผ่นกรองอากาศ แผ่นกรองอากาศของเครื่องฟอกอากาศแบบไฟฟ้าสถิตสามารถทำความสะอาดตัวเองได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศ สามารถกรองมลพิษ เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อจุลินทรีย์และกลิ่น สามารถติดตั้งร่วมกับเครื่องปรับอากาศได้ แต่การติดตั้งต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

  2. เครื่องฟอกอากาศแบบไอออนิค (Ionic Air Purifiers) เป็นเครื่องฟอกอากาศอีกแบบหนึ่งที่นิยมเช่นกัน สามารถกรองมลพิษต่างๆไม่ว่าจะเป็น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ เชื้อไวรัส นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย การทำงานคล้ายกับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศแบบไฟฟ้าสถิต

  3. เครื่องฟอกอากาศแบบอิเลคทรอนิคส์ (Electronic Air Cleaners) เป็นเครื่องฟอกอากาศแบบมาตรฐานที่ใช้การเปลี่ยนไส้กรองอากาศ เครื่องฟอกอากาศแบบนี้จะไม่สามารถที่จะฆ่าเชื้อโรคหรือกำจัดสารเคมีได้ แต่มีความสามารถในการกรองฝุ่นละออง มลพิษ ควันต่างๆ กรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นกรองอากาศแบบมาตรฐานทั่วไป

  4. เครื่องฟอกอากาศเทคโนโลยี HEPA Filters เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมเนื่องจากสามารถฟอกอากาศได้บริสุทธิ์เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือโรคภูมิแพ้ เครื่องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถกำจัดสารกัมตรังรังสีในอากาศ ทำให้อากาศสะอาด99.99 % กรองฝุ่น, แบคทีเรีย เชื้อรา, เกสรดอกไม้ , ฝุ่นละอองของสัตว์ รวมถึงควันบุหรี่ และยังเป็น เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 ได้ดีเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่าเครื่องฟอกอากาศก็มีให้เลือกใช้งานค่อนข้างหลากหลาย ตาม รุ่น ยี่ห้อ และราคา โดยมีเทคโนโลยีการผลิตเป็นคุณสมบัติสำคัญ การพิจารณาเลือกเครื่องฟอกอากาศราคาไม่แพงก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพไม่ดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่การใช้งานด้วยส่วนหนึ่ง เพราะประโยชน์หลักๆที่จะได้รับก็คือการทำให้อากาศสะอาด มีโอโซนที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ส่งผลให้ผู้รับอากาศบริสุทธิ์เข้าไปได้นอนหลับสบาย มีสุขภาพที่แข็งแรง ปอดก็ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป  ไม่เป็นหวัดหรือโรคภัยไข้เจ็บอะไรได้ง่ายๆ  และนอกจากจะเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ทำงานได้ดีแล้ว ผู้ใช้งานก็ต้องทราบวิธีในการดูแลและใช้งานมันอย่างถูกต้องด้วยเช่นกัน


10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2022

1. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Pro
2. เครื่องฟอกอากาศ Philip Vitashield AC2887
3. Blueair HealthProtect™ รุ่น 7770i
4. เครื่องฟอกอากาศ DAIKIN รุ่น MC55UVM6
5. Hatari เครื่องฟอกอากาศ รุ่น HT-AP12
6. เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่น AC3259
7. เครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่น The Sqair (HEPA)
8. Sharp เครื่องฟอกอากาศ รุ่น FP-J30TA-P
9. เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น KC-G50TA-W
10. Mitsuta Electric MAP450



1. Xiaomi Mi Air Purifier Pro

Xiaomi Mi Air Purifier Pro


Xiaomi Mi Air Purifier Pro เครื่องฟอกอากาศรุ่นอัพไซส์ที่ความสามารถในการจัดการกับอากาศยังทรงพลังไม่เปลี่ยน รุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับห้องขนาดกลาง มีการปรับระบบมอเตอร์เป็นแบบคู่มาให้เพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานทั่วถึงทุกพื้นที่กว่าเดิม แน่นอนว่าการจัดการกับฝุ่นผงขนาดเล็กอย่าง PM2.5 ยังทำได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับใครที่มีพื้นที่ห้องอยู่ในขนาดกลางๆ อยากจะปรับอากาศภายในห้องแบบอัตโนมัติและรวดเร็ว ต้อง Mi Air Purifier Pro รุ่นนี้เลย

  • Xiaomi Mi Air Purifier Pro มีอัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์อยู่ที่ 500 ลบ.ม. ต่อชั่วโมง หรือเทียบเท่าการจัดการให้อากาศบริสุทธิ์ในห้องขนาด 23 ตร.ม. ได้ใน 10 นาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากครับ สำหรับบ้านไหนที่มีห้องนั่งเล่นใหญ่ๆที่อยู่ด้วยกันทั้งครอบครัว ตัวนี้ถือว่าดีเลยครับ สำหรับการปกป้องสุขภาพให้คนในบ้าน หรือสำหรับในห้องนอนก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
  • รุ่นนี้ยังคงมาพร้อมหน้าจอ OLED ที่สว่างคมชัด แสดงผลค่าต่างๆแบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำ ทั้งค่าฝุ่น PM2.5, อุณหภูมิและความชื้นในห้อง และไม่ต้องห่วงว่าค่าที่ได้จะไม่ถูกต้องเพราะภายในตัวเครื่อง มีการใส่ตัวเซนเซอร์สำหรับวัดปริมาณค่าต่างๆมาอย่างดี จึงเชื่อถือได้แน่นอนครับ
  • และถึงแม้จะเป็นรุ่นอัพไซส์ แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานยังคงสะดวกเหมือนเดิม แค่เสียบปลั๊กกดเปิดเครื่องก็พร้อมใช้งานได้เลย โหมดการใช้งานต่างๆก็มีมาให้ครบ สั่งการง่ายๆแค่ปลายนิ้ว หรือจะโหลดแอพเสริมมาช่วยให้การใช้งานสะดวกไปอีกหลายเท่าก็ได้

ไฮไลท์

  • เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้มาพร้อมไส้กรอง (Filter) ถึง 3 ชั้น แต่ละชั้นถูกคัดสรรมาจากโรงงานผลิตที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐาน จึงมั่นใจได้เลยว่าประสิทธิภาพในการใช้งานคุ้มลงทุนแน่นอน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือความสามารถในการดักจับฝุ่นที่ทรงพลังมาก ดักจับได้ทั้งสารอันตราย แก๊สพิษ ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือแม้แต่ฝุ่นละอองยอดฮิตอย่าง PM2.5 ก็ไม่เหลือซาก และในสเปคยังระบุมาอีกว่าสามารถขจัดพวกแบคทีเรีย ก๊าซฟอร์มาลดีไฮด์ รวมไปถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ เครื่องกรองรุ่นนี้ก็จัดการได้หมดภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น และจากที่แอดมินทดลองใช้งานจริงถูกใจมากๆครับ เพราะเปิดทิ้งไว้ไม่นาน ค่า PM2.5 ก็ปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลย เป็นเครื่องฟอกอากาศอีกรุ่นที่ 425Degree ขอแนะนำเลยครับ
  • ไส้กรองมีอายุการใช้งานถึง 4000 ชั่วโมง บอกคุณภาพไส้กรองผ่านแอพ Mi Home บน Smartphone
  • สามารถใช้ร่วมกับไส้กรองตัวอื่นๆของ Xiaomi ได้ครับ
  • อุปกรณ์ IoT สามารถใช้งานร่วมกับ Google Assistant และ alexa 

สรุปรายละเอียดสินค้า

  • เครื่องฟอกอากาศภายในบ้านสำหรับพื้นที่ 60 ตร.ม.
  • อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์อยู่ที่ 500 ลบ.ม./ชม.
  • มอเตอร์คู่ DC Brushless มีระบบ Classic Tower-Style เป็นพัดลม 2 ใบพัดที่ช่วยให้ดูดอากาศรอบนอกได้อย่างรวดเร็ว
  • ไส้กรองอากาศเป็นทรงกระบอก3 ชั้น สามารถกรอง PM2.5 ได้ และกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน
  • เชื่อมต่อเข้า Smartphone ดูคุณภาพอากาศภายในบ้านแบบ Real-Time
  • อุปกรณ์ IoT เชื่อมต่อเข้ากับ Google Assistant และ alexa



2. Philip Vitashield AC2887

Philip Vitashield AC2887


Philip Vitashield AC2887 สัมผัสอากาศที่สดใส สูดลมหายใจได้เต็มที่ มีความสุขตลอดทั้งวัน

ระดับเสียง : 20.5 เดซิเบล ขนาดห้อง : 24 – 73 ตารางเมตร ขนาดเครื่อง : 366 * 251*698 มม.

เครื่องฟอกอากาศ Philip Aerasense Vitashield AC2887 เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาก ๆ เพิ่มประสิทธิภาพ ในการฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้ดีเยี่ยม มีความสามารถในการขจัดอนุภาคขนาดเล็กกว่า 20 นาโนเมตร เพิ่มประสิทธิภาพกว่า 48% ในการขจัดสารก่อภูมิแพ้ครับ

ในส่วนนี้ สามารถที่จะลดสารก่อภูมิแพ้ได้มากถึง 99.97% และกำจัดไวรัส (H1N1) ได้อีกด้วยครับ ตัวเครื่องทำงานได้เงียบดีมาก ๆ เพียงแค่ 25 เดซิเบล เท่านั้นเอง ทำให้ไม่รบกวนความสุขของเพื่อน ๆ ในระหว่างนอนหลับครับ หลับสบายทั้งคืนแน่นอน

ที่ตัวเครื่อง จะมีแสงไฟที่แสดงการทำงาน โดยเพื่อน ๆ สามารถลดแสงได้ครับ มีโหมดการทำงาน 3 โหมด ครบทุการใช้งาน เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ค่อนข้างครบถ้วน และมีประสิทธิภาพที่ดีมาก ๆ มีไว้ใช้งานไม่ผิดหวังเลย

ไฮไลท์

  • สามารถขจัดอนุภาคขนาดเล็กกว่า 20 นาโนเมตร
  • กำจัดไวรัส (H1N1)
  • สามารถลดสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง99.97%
  • เครื่องทำงานเงียบมาก ๆ เพียง 25 เดซิเบล ไม่รบกวนการนอนหลับ
  • เครื่องออกแบบได้สวยงามมาก ๆ
  • ตัวเครื่องมีไฟแสดงการทำงานแบบเรียลไทม์




3. เครื่องฟอกอากาศ Blueair HealthProtect™ รุ่น 7770i

Blueair HealthProtect™ รุ่น 7770i


เครื่องฟอกอากาศ Blueair HealthProtect™ รุ่น 7770i ดีไซน์เรียบง่ายเข้าได้กับทุกสไตล์ของบ้านวางตรงไหนก็เหมาะสม ตัวเครื่องทำจากเหล็กกล้าเคลือบพิเศษ มีความแข็งแรงทนทาน มีช่องเก็บสายไฟอยู่ใต้ฐานไม่เกะกะ เคลื่อนย้ายสะดวกด้วยล้อเลื่อน สำหรับรุ่นนี้มีระบบ GermShield™ ที่ช่วยป้องกันไวรัสและแบคทีเรีย ได้ตลอด 24 ชม. ฆ่าเชื้อโรคได้ 99% และกำจัดอนุภาคได้ 99.97% ที่อนุภาคขนาด 0.1 micron เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่ช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์ให้ห้องของคุณได้มากขึ้น

เครื่องฟอกอากาศป้องกันไวรัสและแบคทีเรีย ตลอด 24 ชม. ดักจับสารก่อภูมิแพ้ ทำงานเสียงเงียบ ใช้พลังงานน้อย

เครื่องทำงานเสียงเงียบ ไม่รบกวนการพักผ่อน ใช้พลังงานน้อยลง สามารถดักเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้อย่างรวดเร็ว ดักจับสารก่อภูมิแพ้ต่าง ไม่ว่าจะเป็น PM2.5 ฝุ่นละออง เกสร สะเก็ดผิวหนังแห้งจากสัตว์เลี้ยง เชื้อรา ควันบุหรี่ สารเคมีต่างๆรวมทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่องลมออก แบบ 360◦ ส่งอากาศบริสุทธิ์ได้ทั่วทั้งห้อง มีเซ็นเซอร์แสดงผลการทำงาน บอกค่าบนหน้าจอสัมผัส ได้ทั้ง PM10, PM2.5, PM1, หน้าจออนิเมชั่น (VOC) แสดงแถบสี แบ่งระดับได้ 5 สี: ฟ้า, เขียว, เหลือง, ส้ม, แดง นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อ Wifi เพื่อสั่งการใช้งานและดูคุณภาพอากาศอย่างละเอียดได้ ผ่าน Blueair App ที่รองรับทั้งระบบ iOS และ Android

ในเรื่องของไส้กรองนั้น เป็น ไส้กรอง SmartFilter มี RFID chip ติดตามการใช้งานไส้กรองแบบเรียลไทม์ แจ้งอายุการใช้งานให้ทราบเป็น % ซึ่งไส้กรองจะมีอายุการใช้งานได้ 1 ปี ออกแบบลักษณะเหมือนกับการเปิด-ปิดหนังสือ เพื่อให้เชื้อโรคอยู่ด้านใน เมื่อเปลี่ยนไส้กรองจะได้ไม่ต้องสัมผัสเชื้อโรคโดยตรง

ที่สำคัญในเรื่องบริการหลังการขาย เครื่องฟอกอากาศ Blueair รับประกันมอเตอร์ 5 ปี พร้อมบริการตรวจเช็คไส้กรองและทำความสะอาดเครื่องฟรี จำนวน 2 ครั้ง ในปีแรก มีเจ้าหน้าที่พร้อมบริการถึงบ้าน เฉพาะในเขตกรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้น

ไฮไลท์

  • เทคโนโลยี GermShield™ ช่วยป้องกันไวรัสและแบคทีเรีย ได้ตลอด 24 ชม. แม้ปิดเครื่องแล้ว เครื่องยังทำงานในการตรวจสอบต่อไป
  • ไส้กรอง SmartFilter มี RFID chip ติดตามการใช้งานไส้กรองแบบเรียลไทม์ แจ้งเตือนเวลาที่ควรเปลี่ยนไส้กรอง
  • เทคโนโลยี HepaSilent Ultra™ ใช้ระบบไฟฟ้าสถิตและระบบไส้กรอง ที่สามารถดักจับ เชื้อแบคทีเรีย และไวรัส ได้อย่างรวดเร็ว



4. เครื่องฟอกอากาศ DAIKIN รุ่น MC55UVM6

เครื่องฟอกอากาศ DAIKIN รุ่น MC55UVM6

เครื่องฟอกอากาศ DAIKIN รุ่น MC55UVM6

ฟอกอากาศทั้งนอกและในเครื่อง มีระบบป้องกันไฟตก - ไฟกระชาก

เครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอากาศในญี่ปุ่นรุ่นนี้ ไม่ใช่แค่การดักจับฝุ่นและดับกลิ่นทั่วไปเท่านั้น แต่ยังสามารถย่อยสลายโปรตีนในอากาศ ส่งผลให้ยับยั้งเชื้อโรคบางชนิดได้ อีกทั้งยังมีเสียงการทำงานที่เบามาก นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยี Active Plasma Ion ร่วมกับเทคโนโลยี Streamer ช่วยทำให้อากาศทั้งภายนอกและภายในเครื่องสะอาด พร้อมระบบที่ตอบรับการทำงานในสภาวะกระแสไฟฟ้าไม่คงที่ ช่วยรักษาให้เครื่องใช้งานได้ยาวนาน ถือเป็นฟังก์ชันที่ค่อนข้างเหมาะกับการใช้งานในบ้านมากทีเดียว

  • เครื่องฟอกอากาศ MC55UVM6 ขนาด 41 ตร.ม.
  • ทำความสะอาดด้วยแผ่นกรองฝุ่นไฟฟ้าสถิตแบบ HEPA ฝุ่นเกาะติดง่ายไม่ทำให้แผ่นอุดตันเร็ว
  • ฟอกอากาศได้เร็วขึ้น ยับยั้งฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97%
  • ระบบฟอกอากาศภายนอกเครื่อง Active Plasma Ion
  • ระบบฟอกอากาศภายในเครื่อง Streamer
  • ความเข้มข้นของประจุ สูงถึง 25,000 ไอออน
  • ยับยั้งไวรัส H1N1 - H5N1 แบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่น
  • ครอบคลุมพื้นที่ 41 ตรม.
  • รับประกัน(ปี) : 1



5. Hatari เครื่องฟอกอากาศ รุ่น HT-AP12

Hatari เครื่องฟอกอากาศ รุ่น HT-AP12

เครื่องฟอกอากาศ Hatari HT-AP12 เครื่องฟอกอากาศออกแบบทันสมัย แผ่นกรองอากาศเคลือบสารสกัดแซนโทนจากเปลือกมังคุด

เครื่องฟอกอากาศ Hatari HT-AP12 มีนวัตกรรม แผ่นกรองอากาศ BIO FILTER เคลือบสารสกัดแซนโทนจากเปลือกมังคุดช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส และมีรีโมทคอนโทรล มีระบบไฟฟ้าอัตโนมัติเทอร์มอล ฟิวส์ มีระบบกรองอากาศ 4 ขั้นตอน มีระบบกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์.

  • รุ่น Hatari HT-AP12
  • ระดับเสียง มีsleepโหมด เสียงเบา
  • ขนาดห้อง 32 ตารางเมตร
  • คุณสมบัติพิเศษ แผ่นกรองอากาศ BIO FILTER เคลือบสารสกัดแซนโทนจากเปลือกมังคุด
  • แผ่นกรองอากาศ BIO FILTER เคลือบสารสกัดแซนโทนจากเปลือกมังคุด ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
  • ดีไซน์สวยงามทันสมัย ใช้งานง่าย
  • ระบบตัดไฟอัตโนมัติ เทอร์มอล ฟิวส์ ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
  • ตัวเครื่องปุ่มกดระบบสัมผัส Touch Screen
  • ไม่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับค่าฝุ่น



6. เครื่องฟอกอากาศ philips Series 3000i AC3259/20

เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่น AC3259


เครื่องฟอกอากาศ philips Series 3000i AC3259/20

เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 ดีไซน์ทันสมัย เชื่อมต่อระบบด้วยแอพพลิเคชั่น

เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่น AC3259/20 มีระบบการทำงานที่ทันสมัยเชื่อมต่อด้วยแอพพลิเคชั่น ให้คุณสามารถฟอกอากาศได้ทุกที่ทุกเวลาสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ 3 รูปแบบ มีโหมดป้องกันสารก่อภูมิแพ้ มีระบบตรวจจับอัตโนมัติ สามารถตั้งค่าความเร็วด้วยตัวเองได้ 5 แบบ

  • รุ่น Philips Series 3000i AC3259/20
  • ระดับเสียง มีsleepโหมด เสียงเบา
  • ขนาดห้อง 42 ตารางเมตร
  • เชื่อมต่อระบบด้วยแอพพลิเคชั่นฟอกอากาศได้ทุกที่ทุกเวลา
  • มีโหมดป้องกันสารก่อภูมิแพ้
  • ตั้งค่าความเร็วลมได้ถึง 5 แบบ
  • ตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนักพอสมควร จึงไม่เหมาะการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ



7. เครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่น The Sqair (HEPA)

เครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่น The Sqair (HEPA)


เครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่น The Sqair (HEPA) ดีไซน์น่ารัก มีแผ่นกรอง HEPA ดักจับไวรัสแบคทีเรีย PM2.5 ฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง

ขนาดยาว x กว้าง x สูง (ซม.) : 38 x 38 x 33   น้ำหนัก : 5.5 กก.   กำลังไฟฟ้าที่ใช้ : สูงสุด 38 วัตต์   รับประกัน : 1 ปี

เครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่น The Sqair (HEPA) เครื่องฟอกอากาศที่ทุกคนรอคอย มาพร้อมกับคุณภาพที่มั่นใจได้ เป็น เครื่องฟอกอากาศ ที่มีสองเวอร์ชัน คือแบบที่มี ตัวกรอง HEPA และแบบที่มี HEPA + Carbon

ตัวเครื่องสามารถใส่แผ่นกรองคาร์บอน ไว้ใช้สำหรับกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างเด็ดขาด แผ่นกรองอากาศแบบ HEPA นั้น จะมีอายุการใช้งานได้นานเลย ประมาณ 6 – 16 เดือนและยังมีประสิทธิภาพในการกรองอากาศมาก ๆ ด้วย

โดยเฉพาะอนุภาคขนาด 0.1 ไมครอน เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ ทุกคน ได้รับอากาศที่ดี บริสุทธิ์ ดีต่อสุขภาพ เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้นั้น ใช้งานได้ง่ายมาก ๆ ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใดเลย ตัวเครื่องก็มีการออกแบบดีไซน์อย่างสวยงาม

เครื่องทำงานได้อย่างเงียบมาก แทบจะไร้เสียงรบกวน เป็นเครื่องฟอกอากาศที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงมาก ๆ อีกรุ่นหนึ่งนะครับ เพื่อน ๆ ซื้อเครื่องฟอกรุ่นนี้ไปใช้งาน รับรองว่าคุ้มค่า ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

ไฮไลท์

  • มีแผ่นกรอง HEPA ดักจับไวรัสแบคทีเรีย PM2.5 ฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง
  • มีไส้กรองคาร์บอนดักจับ VOC สารเคมีควันกลิ่น
  • มีการออกแบบดีไซน์สวย ทันสมัย สไตล์สแกนดิเนเวียน ขาทำมากจากไม้จริง
  • ตัวเครื่องทำงานเงียบเงียบมาก ๆ 23-52 เดซิเบล ไม่รบกวนการพักผ่อน
  • ราคาเบา ๆ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก



8. Sharp เครื่องฟอกอากาศ รุ่น FP-J30TA-P

Sharp เครื่องฟอกอากาศ รุ่น FP-J30TA-P


เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กราคาเบาๆ สีหวานน่ารัก ดักจับฝุ่นได้ดี เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-J30TA-P คุณจะสะดุดตาด้วยสีสันสดใสของเครื่องที่มีสีชมพูสวยงาม ขนาดเครื่องกำลังพอดี ไม่ใหญ่มากเกินไป เครื่องฟอกอากาศระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ พ่นอนุภาคไฟฟ้าบวกและลบ ปรับความแรงของเครื่องได้ 3 ระดับ แผ่นกรองแบบ  HEPA อายุการใช้งานประมาณ 2 ปี ซึ่งมีความสามารถในการดักจับฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียในอากาศ เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ดักจับฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97%  Sharp รุ่น FP-J30TA-P เหมาะกับห้องที่มีขนาด 23 ตารางเมตร

ไฮไลท์

  • กรองอนุภาคขนาเล็กกว่า0.3 ไมครอน ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียในอากาศ เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ได้ 99.97 %
  • ระดับ แผ่นกรองแบบ  HEPA อายุการใช้งานประมาณ 2 ปี
  • ระบบฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์ และแผ่นกรอง HEPA กรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ



9. เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น KC-G50TA-W

เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น KC-G50TA-W


เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น KC-G50TA-W มาพร้อมกับระบบทำไอน้ำอัตโนมัติ พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการทำงาน

ให้คุณมั่นใจได้ในคุณภาพอากาศด้วย Sharp KC-G50TA-W ที่มีระบบการทำงานดีเยี่ยม ด้วยการทำงานของเซ็นเซอร์มากถึง 6 ประเภท ตรวจจับสภาพแวดล้อมที่ต่างกันถึง 7 รูปแบบ คอยดักจับอนุภาคเล็ก ๆ จำพวกฝุ่นละออง กลิ่น อุณหภูมิ ความชื้นและการเคลื่อนไหวภายในห้อง ตั้งระยะเวลาเปิด - ปิดเครื่องเองได้ มีเทคโนโลยี Plasmacluster แบบเข้มข้น ปล่อยอนุภาคที่สามารถฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา และแบคทีเรียต่าง ๆ ได้อย่างหมดจด นอกจากนี้ ยังมีระบบการทำงานไอน้ำที่ตรวจจับและปล่อยความชื้นตามความเหมาะสม ให้สุขภาพและอากาศดีควบคู่กันไปได้เลย

เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น KC-G50TA-W สำหรับพื้นที่ 38 ตรม.

  • ขนาดห้อง 38 ตรม.
  • สีขาว
  • ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์แบบเข้มข้น
  • ตรวจจับ PM ได้ถึง 2.5
  • ตรวจจับกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์
  • ตรวจจับความเคลื่อนไหวในห้อง
  • ล้อเลื่อนติดตั้งมากับตัวเครื่อง
  • ใช้งานได้สูงสุด 14 ช.ม.



10. Mitsuta Electric MAP450

Mitsuta Electric MAP450


เครื่องฟอกอากาศ Mitsuta Electric รุ่น MAP450 เครื่องฟอกอากาศ ราคาเบาๆ สามารถฟอกอากาศได้มากถึง 6 ขั้นตอน ปรับความแรงลมได้ 3 ระดับ ตั้งเวลาการทำงานสูงถึง 8 ชั่วโมง กำจัดเชื้อโรคไม่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า มี Activated Carbon Filter ช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว

  • รุ่น Mitsuta Electric MAP450
  • ระดับเสียง ≤ 55 dBA
  • ขนาดห้อง 30 – 45 ตารางเมตร
  • คุณสมบัติพิเศษ กรองอากาศบริสุทธิ์ 6 ขั้นตอน
  • สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ ได้ถึง 6 ขั้นตอน ซึ่งทำให้อากาศบริสุทธิ์
  • มีโหมดSleep เพื่อการพักผ่อนที่เต็มที่ไม่มีเสียงดังรบกวน และตัดแสงไฟทั้งหมด
  • สามารถ กรองฝุ่นPM2.5 ได้ดี
  • ไม่มีรีโมทคอนโทรล



ทำไมต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier)
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee

  • เคยสังเกตกันไหมว่า ทุกวันนี้หลาย ๆ บ้าน รวมทั้งในห้องทำงานของบริษัทหลาย ๆ แห่งก็มักจะมีเครื่องฟอกอากาศกันแทบทั้งนั้น หลาย ๆ คนอาจจะมีความสงสัยว่าทำไมเราจึงต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศ เครื่องฟอกอากาศมีประโยชน์อย่างไรบ้าง สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง คุ้มค่าแก่การซื้อหรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องฟอกอากาศให้มากขึ้น พร้อมตอบคำถามที่ว่าทำไมต้องซื้อ เครื่องฟอกอากาศในบ้าน
  • ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้อันเนื่องมาจากฝุ่นละอองต่าง ๆ ในอากาศได้ ใครที่มีโรคประจำตัว แพ้ฝุ่น การมีเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านจะช่วยได้มาก เพราะตัวเครื่องฟอกอากาศจะทำหน้าที่ในการดักจับ เชื้อโรค ฝุ่นละอองภายในอากาศ สามารถติดตั้งไว้ได้หลากหลายพื้นที่ในบ้าน ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องรับแขก เป็นต้น
  • ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคทางระบบหายใจ อย่างที่เราทราบกันดีว่า โรคทางระบบหายใจมีด้วยกันหลากหลายโรค และโรคต่าง ๆ ก็เกิดจากการที่เราสูดดมหรือหายใจเอาอากาศที่ไม่มีคุณภาพ อากาศที่มีการปนเปื้อนของมลพิษ เชื้อโรค ฝุ่นต่าง ๆ เข้าไป เมื่อได้รับการสะสมเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็ก่อให้เกิดโรคตามมาได้ เครื่องฟอกอากาศจะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้
  • เครื่องฟอกอากาศในบ้านให้ความรู้สึกสบาย หายใจสะดวกมากยิ่งขึ้นเนื่องจากคุณภาพอากาศภายในห้องดีขึ้น ไม่ต้องคอยใส่หน้ากากอนามัยเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันฝุ่นละอองหรือหน้ากากที่กันฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกอึดอัดและไม่สบายขณะการสวมใส่ ทำให้เราสามารที่จะดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ส่งเสริมประสิทธิภาพการหายใจของเราให้ดียิ่งขึ้น
  • สามารถมั่นใจได้ว่าได้ว่าได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ ด้วยเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เราสบายใจที่จะนำไปใช้กับสมาชิกในครอบครัว
  • ช่วยมอบความคุ้มค่าในระยะยาว ลองคิดดูว่าในทุก ๆ วันเราสามารถได้รับอากาศที่บริสุทธิ์จะดีแค่ไหนการใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้านก็เป็นเสมือนเป็นการดูแลตนเองในทุก ๆ วัน ให้มีสุขภาพร่างกายและอวัยวะภายในที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่ดีขึ้น ไม่ต้องไปเสี่ยงกับมลพิษทางอากาศต่าง ๆ ที่อาจจะเข้าไปเป็นอันตรายต่อร่างกาย

จะเห็นได้ว่าเครื่องฟอกอากาศมีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเราในหลากหลายด้าน ทั้งความสะดวกสบายและสุขภาพร่างกาย การมีเครื่องฟอกอากาศในบ้าน ที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคุณให้ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง

เครื่องฟอกอากาศ มีระบบการทำงานอย่างไร?

ระบบการทำงานของเครื่องฟอกอากาศสามารถแบ่งออกได้ 5 ระบบหลักๆคือ

  1. Air filters หรือ แผ่นกรองอากาศ ทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส ฝุ่นละอองในอากาศที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ Air filters มีประเภทที่ทำมาจากกระดาษ เส้นใย ตาข่าย แต่แบบที่นิยมใช้ในปัจจุบันก็คือ แผ่นกรองอากาศแบบ HEPA หรือ High Efficiency Particulate Air เป็นแผ่นกรองที่ผลิตจากเส้นใย Fiberglass ที่ออกแบบมาเพื่อดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน และมีประสิทธิภาพดักจับฝุ่นละอองได้ไม่น้อยกว่า 99.97% และยังมีอายุเฉลียนในการใช้งานอยู่ที่ 3-5 ปีเลยทีเดียว

  2. Electrostatic Precipitator (ESP) หรือ ระบบกรองอากาศที่ทำงานโดยใช้หลักไฟฟ้าสถิต โดยการปล่อยไฟฟ้าประจุลบออกม าเพื่อดักจับฝุ่นละอองในอากาศหรืออนุภาคขนาดเล็กที่เป็นประจุบวกให้เป็นกลุ่มเป็นก้อน ซึ่งจะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้นแล้วตกลงสู้พื้นโดยไม่ลอยฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ

  3. Gas-Phase air filters เป็นระบบที่มีไว้สำหรับกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ต่างๆ โดยการใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติในการดูดซับมลพิษเป็นตัวช่วยในการทำงานของระบบ เพื่อช่วยดูดซับกลื่นไม่พึงประสงค์และก๊าซพิษให้หายไป

  4. Ozone generator เป็นการนำระบบโอโซนมาใช้กับระบบการฟอกอากาศ โดยเชื่อว่าจะช่วยกำจัดอนุภาคของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสารระเหยต่างๆ ที่ปนมากับอากาศได้ดี พร้อมทั้งสามารถกำจัดเชื้อโรคบางอย่างได้อีกด้วย แต่เนื่องจากโอโซนค่อนข้างมีผลเสียมากกว่าผลดีต่อร่างกายของมนุษย์จึงไม่ค่อยนิยมใช้กันมากนัก ดังนั้นจึงมักจะใช้เครื่องฟอกอากาศประเภทนี้กับพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านมากนัก

  5. UV Light เป็นระบบที่นำรังสีอัลตราไวโอเลตมาช่วยในการกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ อย่างเช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา หรือฝุ่นละอองในอากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้


ข้อดี ข้อเสีย ของเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier)

สภาพแวดล้อมในปัจจุบันมีความเป็นมลภาวะสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะทางน้ำ มลภาวะทางดิน มลภาวะทางเสียง หรือมลภาวะทางอากาศ ปัญหาเหล่านี้มีสาเหตุมาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการทำลายสิ่งแวดล้อมในรูปแบบอื่นๆ ตลอดจนการขาดจิตสำนึกต่อส่วนรวม ทำให้นับวันปัญหามลภาวะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหามลภาวะทางอากาศ ซึ่งอากาศเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างยิ่ง แต่ตอนนี้สภาวะอากาศทั่วโลกกำลังเลวร้ายลง อันเป็นผลมาจากความต้องการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทำให้มีการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการตัดไม้ทำลายป่ามากขึ้นด้วย เมื่อปราศจากต้นไม้ ก็ไม่มีสิ่งใดมาฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ เมื่ออากาศสกปรก อาจเป็นบ่อเกิดของโรคระบบทางเดินหายใจหลายชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหลอดลมอักเสบ เป็นต้น

ดังนั้น ตัวเลือกที่ดีประการหนึ่ง คือ การเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศในอาคารบ้านเรือน ห้องพัก หรือสำนักงาน ซึ่งแต่ละแบรนด์มีประสิทธิภาพในการทำให้อากาศบริสุทธิ์แตกต่างกันไป เมื่อใช้งานแล้ว จะทำให้อากาศบริเวณนั้นๆ มีความสะอาดมากขึ้น สามารถหายใจได้อย่างสบาย หายใจได้อย่างเต็มปอด ปัจจุบันมีแบรนด์เครื่องฟอกอากาศมากมาย ผู้ใช้ต้องเลือกเครื่องที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ตนเองต้องการ รวมทั้งควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับฉลากประหยัดไฟบอร์ 5 ด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้าเพิ่ม

ข้อดี

  • ช่วยลดการเกิดภูมิแพ้ที่เกิดจากฝุ่นละออง เกสร หรือขนสัตว์ 
  • ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตและกำจัดแบคทีเรีย เชื้อโรค และเชื้อราได้ 
  • ช่วยเปลี่ยนอากาศเสียให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ และปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ 

ข้อเสีย

  • ไม่ได้ทำให้ฝุ่นละอองหายไปจากบ้านทั้งหมด เพราะฉะนั้นจึงควรทำความสะอาดบ้านควบคู่กันไปด้วย 
  • เครื่องฟอกอากาศไม่ได้ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ให้หายขาด เพราะเครื่องฟอกอากาศทำได้แค่ดูดจับฝุ่นละอองหรือสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ในอากาศเท่านั้น
  • ไม่ใช่เครื่องฟอกอากาศทุกเครื่องที่สามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ควรเลือกที่มีชั้นกรอง แอค ทิเวเต็ด คาร์บอน ด้วย 


วิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศ

1. เลือกเครื่องให้เหมาะกับขนาดห้อง อันดับแรกสุดเมื่อต้องการซื้อเครื่องฟอกอากาศ คือต้องรู้ว่าเราจะซื้อเครื่องฟอกอากาศไปวางไว้ที่ห้องไหนและห้องนั้นจะมีขนาดกี่ตารางเมตร เพื่อเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่รองรับกับขนาดของห้อง อย่างไรก็ตามควรเลือกขนาดการรองรับที่ใหญ่กว่าขนาดห้อง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น เช่น ถ้าห้องใหญ่ 20 ตารางเมตร ก็ควรเลือกรุ่นที่รองรับห้องที่ขนาด 20-25 ตารางเมตรขึ้นไป จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

2. เปรียบเทียบความเร็วในการฟอกอากาศ มีค่า  2 ตัวที่เราใช้เลือกเวลาซื้อเครื่องฟอกอากาศ ตัวแรกเรียกว่าค่า CADR (Clean Air Delivery) หรือค่าปริมาณอากาศที่เครื่องสามารถเปลี่ยนถ่ายได้ใน 1 นาที ยิ่งมีตัวเลขสูงยิ่งฟอกอากาศได้ดี และค่า Air Flow หรือค่าความเร็วลม เป็นค่าที่บอกว่าเครื่องสามารถกรองอากาศและปล่อยอากาศบริสุทธิ์ได้เร็วแค่ไหน ยิ่งมีตัวเลขสูงยิ่งฟอกอากาศได้เร็ว ในการเลือกซื้อก็สามารถใช้ตัวเลข 2 ค่านี้เพื่อเปรียบเทียบรุ่นที่สนใจได้

3. รู้จักไส้กรองให้ดี เลือกให้ตรงความต้องการไส้กรองจัดเป็นหัวใจหลักของเครื่องฟอกอากาศเลยก็ว่าได้ นอกจากแผ่นกรองอากาศขั้นแรกแล้ว ยังมีแผ่นกรองอากาศพิเศษที่ใส่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้สามารถกรองฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น หรือกรองสิ่งอื่นๆได้ด้วย โดยมีแผ่นกรองที่เห็นได้บ่อยๆ ดังนี้

  • แผ่นกรองอากาศ HEPA (High Efficiency Particulate Air) เป็นแผ่นกรองที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กมากๆได้ หรือก็คือกรองฝุ่น PM 5 ได้นั้นเอง ดังนั้นควรเลือกรุ่นที่มีแผ่นกรองอากาศ HEPA สำหรับการแก้ไขปัญหาอากาศแย่ๆในช่วงนี้

  • แผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Filter) เป็นแผ่นกรองที่สามารถกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างกลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอาหาร กลิ่นสี หรือกลิ่นน้ำยาเคมีต่างๆได้ ใครที่ชอบเอาอาหารเข้ามาทานในห้องหรือห้องมักได้กลิ่นเหม็นมาจากข้างบ้าน ก็ควรเลือกรุ่นที่มีแผ่นกรองชนิดนี้ด้วย

  • แผ่นกรองอากาศแบบออลอินวัน (All-in-/one Air Filter) เป็นแผ่นกรองอากาศแบบรวมแผ่นกรองหลายๆแบบมาใส่ไว้ในชุดเดียวกัน มีในเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก ซึ่งก็ง่ายและสะดวก แต่ถ้าถึงอายุการใช้งานก็ต้องเปลี่ยนอย่างเดียวเลย เพราะแกะมาล้างไม่ได้ ใครที่หาเครื่องฟอกอากาศในรถ ก็เลือกรุ่นที่ใช้แผ่นกรองแบบนี้ได้

  • แผ่นกรองอากาศชนิดพิเศษ นอกจากนี้ยังมีแผ่นกรองอากาศเสริมพิเศษอย่าง แผ่นกรองสารก่อภูมิแพ้ (Allergen Filter) ที่ช่วยกรองเชื้อโรคอย่างละอองเกสรดอกไม้ ตัวไรฝุ่น, แผ่นกรองสารเคมี (Photocatalyst Filter) ที่ช่วยกรองพวกสารเคมี ซึ่งจะเหมาะกับพวกโรงงานมากกว่า ตรงนี้ก็เลือกตามความต้องการที่ใช้ได้เลย แต่ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้นไปด้วย

4. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เป็น  ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ควรจะเลือกแบบที่มีฉลากไฟเบอร์ 5 และมีระบบเปิดปิดเครื่องอัตโนมัติเพื่อให้ประหยัดพลังงาน มีการลักษณะปลั๊กเสียบเป็นอย่างไรหรือมีการใช้แบตเตอรี่แทน สามารถสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนหรือรีโมทได้ไหม มีรูปร่างและน้ำหนักที่ใหญ่มากน้อยแค่ไหน สามารถเคลื่อนย้ายเครื่องได้ง่ายไหม มีดีไซน์ที่หากวางในบ้านจะดูเข้ากับการตกแต่งบ้านรึเปล่า รายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น บางคนอาจเลือกที่ดีไซน์ก่อนประสิทธิภาพก็ไม่ผิด

5. เลือกฟังก์ชั่นพิเศษที่จำเป็นจริงๆก็พอ  นอกจากฟังก์ชั่นการฟอกอากาศแล้วเครื่องฟอกอากาศยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆที่ใส่เข้ามาในด้วย เพื่อประสิทธิภาพและความสะดวกที่มากขึ้น ทั้งนี้ควรเลือกเฉพาะที่จำเป็นจริงๆก็พอ เพราะถ้าเป็นรุ่นที่ทำอะไรได้หลายอย่างก็ย่อมทำให้มีราคาแพงขึ้นเช่นกัน โดยฟังก์ชั่นที่พบเห็นได้ทั่วไป อาทิ
  • ฟังก์ชั่นเพิ่มความชื้นในอากาศ (Humidification Function) เมื่อเราอยู่ในห้องปรับอากาศนานๆ ผิวคนเรามักจะแห้ง การเติมความชื้นจะช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง โดยฟังก์ชั่นนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งหรือมีเลือดกำเดาไหลอยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตามก็จะยุ่งยากในการดูแลรักษาและต้องคอยเติมน้ำอยู่ตลอดเหมือนกัน
  • ฟังก์ชั่นการดักยุง (Mosquito Catching Function) ซึ่งก็จะเป็นการนำฟังก์ชั่นของเครื่องดักยุงมารวมกับเครื่องฟอกอากาศนั้นเอง ทั้งนี้อาจจะซื้อเครื่องดักยุงแยกกับเครื่องฟอกอากาศก็ได้ ยิ่งปัจจุบันเครื่องดักยุงเองก็มีราคาไม่แพงเท่าไหร่แล้ว
  • ฟังก์ชั่นการฆ่าเชื้อโรค ใครที่ต้องการห้องที่สะอาดและปลอดภัยสำหรับลูกๆ ควรเลือกรุ่นที่เพิ่มฟังก์ชั่นนี้เข้าไปด้วย โดยจะมีระบบ UV Light ที่ใช้รังสีอัลตราไวโอเลตมาใช้ และ ระบบ Ozone generator ที่ใช้แสงยูวีหรือการปล่อยกระแสไฟฟ้าในการสร้างโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อโรค และกำจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์
  • ฟังก์ชั่นอัตโนมัติต่างๆ อาทิ ฟังก์ชั่นป้องกันเด็ก ฟังก์ชั่นเปิดปิดเครื่องอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นโหมดนอนหลับ ก็จะมีเพิ่มเข้ามาเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น ตรงนี้อาจเลือกตามความต้องการพิเศษได้เลย เช่น การมีเด็กอยู่ที่บ้านหรือการเป็นคนนอนหลับยากถ้าห้องไม่เงียบสนิท ทั้งนี้ระดับเสียงที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 30-31 เดซิเบล เพื่อป้องกันการรบกวนขณะพักผ่อน

6. เทียบค่าใช้จ่ายระยะยาวและการดูแลหลังการขาย นอกจากการเปรียบเทียบราคาของเครื่องในตอนซื้อแล้ว ไส้กรองอากาศและอุปกรณ์ต่างๆย่อมมีอายุการใช้งานที่ต้องเปลี่ยนเมื่อถึงเวลา โดยไส้กรองจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน ถึง 1 ปี ดังนั้นจึงควรคำนวณค่าใช้จ่ายตรงนี้ไว้ด้วยว่าต้องเสียเท่าไหร่ รวมทั้งการดูแลหลังการขายว่าหากเครื่องเสียหรือต้องเปลี่ยนอะไหล่จะสามารถส่งซ่อมและซื้อเปลี่ยนได้ที่ไหน ทั้งนี้สอบถามเรื่องเงื่อนไขการรับประกันจากพนักงาน

เครื่องฟอกอากาศ กรองฝุ่น กรองอากาศบริสุทธิ์
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee


บทสรุป

เครื่องฟอกอากาศในบ้าน เป็นไอเทมชิ้นสำคัญสำหรับการรับมือกับฝุ่นหรืออนุภาคขนาดเล็กPM 2.5 ที่มักจะกลับมาให้เราได้หายใจติดขัดบ่อยๆ ในช่วงหน้าหนาว โดยสิ่งนี้จะทำหน้าที่กรองอากาศให้บริสุทธิ์ ทำให้คุณหายใจได้สบายมากยิ่งขึ้น หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องฟอกอากาศในบ้าน เครื่องฟอกอากาศพกพา เครื่องฟอกอากาศตั้งโต๊ะ หรือเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ สำหรับใช้งานเพื่อดักจับสิ่งสกปรก และสร้างอากาศบริสุทธิ์   มาพร้อมกับโปรโมชั่นราคาแรงๆ มากมาย เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพอากาศในปัจจุบัน มีด้วยกันหลายรุ่น และมีหลายระดับราคาแล้วแต่ความเหมาะสมที่ต้องการ


เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2021 pantip, เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี pantip, เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ฉลาดซื้อ, เครื่องฟอกอากาศ philips ดีไหม, เครื่องฟอกอากาศ sharp รุ่นไหนดี, เครื่องฟอกอากาศ xiaomi รุ่นไหนดี 2021, เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2020 pantip, เครื่องฟอกอากาศ xiaomi รุ่นไหนดี pantip

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น