Just for You

แนะนำ 10 อันดับ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ล่าสุดปี 2022

ลู่วิ่งไฟฟ้า คือ อุปกรณ์ที่เป็นคำตอบของการรักษาสุขภาพได้ภายในบ้าน ทุกวันนี้ประเทศไทยเข้าสู่ยุคที่มีเด็กไทยรวมถึงผู้ใหญ่ไทยของเรามีน้ำหนักเกินเกณฑ์ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัญหานี้เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เลียนแบบชาติตะวันตกมากขึ้นเรื่อย ๆ การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารแล้ว การออกกำลังกาย นั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรมี การมีลู่วิ่งไฟฟ้าไว้สักตัวก็ถือว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว ลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill) ถือเป็นเครื่องออกกำลังกายสำหรับคาร์ดิโอที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายพื้นฐานที่ทุกคนคุ้นเคยและสามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัยอีกทั้งคุณยังสามารถออกกำลังกายได้ทุกวัน โดยไม่ต้องสนว่าด้านนอกบ้าน จะมีฝนตกหรือแดดออกแค่ไหน 

ลู่วิ่งไฟฟ้าปัจจุบันนี้ มีรุ่นใหม่ ๆ ดี ๆ เทคโนโลยีทันสมัย ออกมามากมายหลายรุ่นเลย สามารถปรับแต่งเมนู เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์การออกกำลังกายของเพื่อน ๆ แต่ละคนเลยครับ เป็นตัวช่วยที่ดีมาก ที่จะทำให้เรา มีสุขภาพที่ดี ด้วยเทคโนโลยีของ ลู่วิ่งไฟฟ้า จะทำให้เรา รู้สึกเหมือนได้วิ่งบนถนนจริง ๆ เลยครับ มาถึงตรงนี้แล้ว เรา คงอยากรู้แล้วใช่ไหม ลู่วิ่งไฟฟ้า นั้น ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ง่าย ทั้งทางเว็บไซต์ต่างๆหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป แต่ยี่ห้อไหนดีมีคุณสมบัติอะไรบ้าง หากต้องการซื้อจะมีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร  

ในวันนี้เราจึงได้นำวิธีการเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าพร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์กีฬาและการออกกำลังกาย รวมถึงรีวิว 10 อันดับ ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่ดีไซน์สวย มอเตอร์ทนทาน พับเก็บได้ แถมยังมีเทคโนโลยีทันสมัยอย่างแอปพลิเคชันหรือการวัดชีพจรและปริมาณไขมัน เป็นต้น เพื่อให้คุณสามารถเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่ดี และเหมาะสมกับการใช้งาน


10 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ราคาไม่แพง ปี 2022

1. MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า 5 แรงม้า รุ่น MX-1000
2. ลู่วิ่งไฟฟ้า FITEX R500
3. Johnson ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อ Horizon Treadmill รุ่น ELITE T5.1
4. Power Reform Motorized Treadmill
5. KF-FIT ลู่วิ่งไฟฟ้า 3.0 แรงม้า รุ่น KF-DK32S
6. World Master Fitness ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น GT5
7. ลู่วิ่ง FITEX R100M ลู่วิ่งไฟฟ้า 3 แรงม้า
8. Xiaomi Kingsmith K12 2-in-1 Walking & Running Pad
9. ลู่วิ่งไฟฟ้า 4.8 แรงม้า FITEX F90
10. B&G ลู่วิ่งไฟฟ้าและที่วัดชีพจร รุ่น F18




1. MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า 5 แรงม้า รุ่น MX-1000

MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า 5 แรงม้า รุ่น MX-1000

MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า 5 แรงม้า รุ่น MX-1000 ลู่วิ่งคุณภาพยอดเยี่ยม จากแบรนด์ MERRIRA มาพร้อมกับ มอเตอร์ DC กำลังสูงสุดถึง 5 แรงม้า สามารถปรับความเร็วได้ 1-22 กม/ชม และ รับน้ำหนักสูงสุด 150 กิโลกรัม

มีระบบโช้คคู่ สามารถรองรับแรงกระแทกได้ยอดเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยี Double Shock Absorption ช่วยลดแรงกระแทกที่เข่าและข้อเท้า 70% สามารถพับเก็บขึ้นลงได้ด้วยระบบ Hydraulic Soft Drop

สามารถเชื่อมต่อ บลูทุธ กับ มือถือ หรือ แทปเลตได้ เพื่อเล่น ZWIFT เป็นเกมวิ่งออนไลน์เสมือนจริงกับเพื่อน ๆ ทั่วโลกได้ ช่วยเพิ่มความสนุกสนานมากขึ้น สามารถปรับความชันได้อัตโนมัติ Auto-Incline 20 ระดับ เพียงกดปุ่มเท่านั้น

มีโปรแกรมการออกกำลังกาย 16 โปรแกรม มีระบบหยอดน้ำมัน Auto-Lubrication System สามารถดูแลรักษาง่าย ช่วยเพิ่มอายุการใช้งาน ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาลู่วิ่งดี ๆ ฟังก์ชั่นครบ คุ้มค่า เลือกลู่่วิ่งรุ่นนี้ไม่ผิดหวังครับ

จุดเด่น

  • มาพร้อมโปรแกรมการออกกำลังกาย 16 โปรแกรม
  • สามารถปรับความชันอัตโนมัติ Auto-Incline 20 ระดับ เพียงกดปุ่ม
  • สามารถพับเก็บขึ้นลงได้ด้วยระบบ Hydraulic Soft Drop
  • มีระบบหยอดน้ำมัน Auto-Lubrication System ดูแลรักษาง่าย
  • มีหน้าจอแบบ LED แสดงข้อมูลครบถ้วน ความเร็ว เวลา ระยะทาง แคลอรี ชีพจร
  • มีระบบการแจ้งเตือนการหยอดน้ำมันในการวิ่งทุก ๆ 50 กิโลเมตร



2. ลู่วิ่งไฟฟ้า FITEX R500

ลู่วิ่งไฟฟ้า 4 แรงม้า ลู่วิ่ง FITEX R500

ลู่วิ่งไฟฟ้ารูปทรงสวยงาม ลู่วิ่งใหญ่วิ่งสะดวก มีระบบลดแรงกระแทกป้องกันข้อเข่าเสื่อม เสียงไม่ดัง

ลู่วิ่งไฟฟ้า FITEX R500 ออกแบบสวยงามทันสมัยหน้าจอ LCD 5.5 นิ้ว แสดงหน้าจอ ความเร็ว ระยะทาง เวลา แคลลอรี่ และระดับชีพจร ลู่วิ่งมีความกว้างวิ่งได้อย่างสบายใจ มีแถบกันลื่นด้านข้าง มีระบบโช๊คคู่ทำให้การวิ่งนุ่มสบาย มีจุดรับแรงกระแทกมากถึง 6 จุด จึงทำให้สามารถลดปัญหาข้อเข่าเสื่อมจากการกระทบกระเทือน นอกจากนี้ยังทำให้เสียงไม่ดังมากจนเกินไป มอเตอร์ 4แรงม้า สามารถเร่งความเร็วได้มากถึง 18 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีระบบจ่ายน้ำมันหล่อลื่นอัตโนมัติ ในส่วนของฟังก์ชั่นเสริมต่างๆก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็นเชื่อมต่อกับมือถือ IOS และ Andriod ฟังเพลง MP3 จากมือถือและ USB พับเก็บได้ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ พร้อมป้องกันแรงกระแทกด้วยระบบไฮดรอลิก มีล้อ เคลื่อนย้ายง่าย สะดวก

รายละเอียด FITEX R500
ขนาดเครื่อง 174 x 74 x 136 เซนติเมตร
ขนาดมอเตอร์ 4 แรงม้า
รองรับน้ำหนัก 140 กิโลกรัม
ขนาดลู่วิ่ง 48 x 135 เซนติเมตร
ความเร็ว 1 – 18 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ข้อดี ข้อเสีย
  • พับเก็บได้ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ พร้อมป้องกันแรงกระแทกด้วยระบบไฮดรอลิก มีล้อ เคลื่อนย้ายง่าย สะดวก
  • มีจุดรับแรงกระแทกมากถึง 6 จุด จึงทำให้สามารถลดปัญหาข้อเข่าเสื่อมจากการกระทบกระเทือน นอกจากนี้ยังทำให้เสียงไม่ดังมากจนเกินไป
  •  ความเร็วออโต้ ขึ้นลงเร็วเกินไป





3. Johnson ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อ Horizon Treadmill รุ่น ELITE T5.1

Johnson ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อ Horizon Treadmill รุ่น ELITE T5.1

ลู่วิ่งไฟฟ้า HORIZON ELITE T5.1 มาพร้อมโครงเหล็กที่มีความแข็งแรง ทนทานให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ขนาดมอเตอร์ที่ใช้ในการขับเคลื่อนได้แก่ 2.75 CHP Digital Drive Motor, Peak 4.0 HP อีกทั้งมีระบบรองรับแรงกระแทกแบบ Variable Response Cushioning และยังสามารถสตรีมเพลงผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย

แข็งแรง ทนทานให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี พร้อมโปรแกรมวิ่ง 19 โปรแกรม

ลู่วิ่งไฟฟ้า JohnSon ที่มีมาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์วัดความเร็วที่มีประสิทธิภาพจึงไม่ต้องกังวลเวลาใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ ว่าจะกระตุกหรือวิ่งในความเร็วที่ไม่คงที่

เครื่องใหญ่ ให้พื้นที่ในการวิ่งที่กว้าง/ยาวกว่าทุกรุ่นถึง 50X153 Cm มอเตอร์ให้กำลังสูงสุดถึง 4 แรงม้า แรงม้าเสถียรให้ความต่อเนื่องสูงถึง 2.75 CHP วิ่งยาวๆ ราบเรียบไม่สะดุด เสียงรบกวนน้อย ทนทาน โดยใช้มอเตอร์คุณภาพสูงพร้อมระบบขับเคลื่อนจาก Johnson Drive System™ ช่วยส่งกำลังอย่างต่อเนื่องยาวนาน และด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัวของ

  • ยี่ห้อ/รุ่น Johnson Horizon Treadmill รุ่น ELITE T5.1
  • มอเตอร์ แรงม้าสูงสุด 4.0 แรงม้า
  • ขนาดสายพาน 153 x 50 cm
  • ความเร็ว 0.8-20 กม ต่อ ชม.
  • รองรับน้ำหนักสูงสุด 170 kg




4. Power Reform Motorized Treadmill

Power Reform Motorized Treadmill

รายละเอียดสินค้า Power Reform Motorized Treadmill

คุณสมบัติเด่นอื่น ๆ: ระบบวัดชีพจรแบบมือจับ / ล้อด้านล่างเพื่อการเคลื่อนย้าย

ลู่วิ่งไฟฟ้าหรือลู่เดินไฟฟ้ารุ่นนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ มาพร้อมกับบาร์จับเพื่อพยุงตัว โดยมอเตอร์ของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มีกำลังอยู่ที่ 1 แรงม้า เหมาะสำหรับการทำกายภาพบำบัดหรือการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ตัวลู่วิ่งไฟฟ้าราคาถูกรุ่นนี้สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 100 กิโลกรัม และสามารถวิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุด 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  หน้าจอของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นหน้าจอ LCD ที่ใช้แสดงข้อมูล 5 ข้อมูลด้วยกัน นั่นคือ ความเร็วขณะวิ่งหรือเดิน ระยะทาง เวลา พลังงานที่เผาผลาญไป และชีพจรของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นฟังก์ชันพื้นฐานของลู่วิ่งไฟฟ้าทั่วไป สำหรับระบบวัดชีพจรจะเป็นแบบมือจับ

ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับปุ่มรักษาความปลอดภัยที่เรียกว่า Safety Key เพื่อป้องกันอันตรายขณะใช้งาน ขนาดสายพานลู่วิ่งของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้อยู่ที่ 34 x 100 เซนติเมตร ออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับโปรแกรมการออกกำลังกายจำนวน 3 โปรแกรมด้วยกัน อุปกรณ์ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ผ่านการทดสอบว่าใช้งานได้กับผู้ป่วยและผู้สูงอายุซึ่งได้รับมาตรฐาน CE, RoHS, TUS, GS และ SGS Certification ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยกับการใช้งานอย่างยิ่ง ข้อเสียของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้คือไม่มีฟังก์ชั่นเอียง ที่ตัวเครื่องมีล้อที่ด้านล่างเพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายลู่วิ่งไฟฟ้า ขอบด้านข้างของลู่วิ่งไฟฟ้าที่อยู่ถัดจากสายพานวิ่งนั้นมีความกว้างถึง 7 เซนติเมตร ทำให้ตัวเครื่องแข็งแรงและมั่นคง

ลู่วิ่งไฟฟ้าช่วยการบำบัดและการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ บาร์จับรอบด้าน

  • รายละเอียด Power Reform Motorized Treadmill
  • ขนาด 55 x 130 x 120 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก 30 กิโลกรัม
  • ขนาดหน้ากว้างสายพาน 34 x 100 เซนติเมตร
  • ความเร็ว 0.8 – 8 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • รองรับน้ำหนักสูงสุด 100 กิโลกรัม
  • รับประกัน มี



5. KF-FIT ลู่วิ่งไฟฟ้า 3.0 แรงม้า รุ่น KF-DK32S


KF-FIT รุ่น KF-DK32S เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าคุณภาพดี ราคาเบา ๆ ที่เพื่อน ๆ เข้าถึงได้ และยังมีฟังก์ชั่นที่ครบครันอีกด้วย ส่งผลให้ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้นั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ครับ รุ่นนี้เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีกำลัง 3 แรงม้า เหมาะแก่การวิ่งในบ้านมาก ๆ

รับประกันสินค้า : 1 ปี มอเตอร์ 7 ปี   มอเตอร์กำลัง : 3.5 แรงม้า   ปรับความเร็วได้ : 1 – 16 กม./ชม. ปรับความชันอัตโนมัติ : 18 องศา      

โครงสร้างตัวเครื่อง มีความแข็งแรง ทนทาน ปรับความเร็วได้ถึง 1 – 16 กม./ชม. สำหรับขนาดสายพาน (พื้นที่วิ่ง) 1260 x 420 mm ส่งผลให้สายพานของลู่วิ่งนั้น ตอบสนองกับแรงกด จากเท้าของเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดีครับ ทำให้วิ่งสบาย เป็นธรรมชาติมาก ๆ ครับ

และระบบโช๊คคู่ ที่มีส่วนช่วยในการลดแรงกระแทกที่ เข่า และข้อเท้าครับ เพื่อน ๆ สามารถปรับความชันของลู่วิ่งได้ที่ 0, 3 และ 5 องศา ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้วิ่งขึ้นเนินเขาจริง ๆ เลยครับ และมาพร้อมกับหน้าจอการทำงานรแบบ LCD ที่แสดงข้อมูลต่าง ๆ อย่างครบถ้วนครับ

ในส่วนของโปรแกรมการออกกำลังกาย ที่มาพร้อมกับลู่วิ่งรุ่นนี้ มีมากถึง 15 โปรแกรมเลยครับ P1 – P12 และ H1 – H3 อีกทั้งยังมีแอป เทรนเนอร์การวิ่งบนมือถือ เชื่อมต่อด้วย Bluetooth จัดโปรแกรมการวิ่ง เก็บข้อมูลการออกกำลังกาย เสมือนกับมีเทรนเนอร์ส่วนตัวช่วยเหลือเราครับ

รองรับการเล่นเพลง MP3 ผ่านมือถือได้ ตัวเครื่องนั้นทำงานได้เงียบมาก ๆ ทำให้เวลาเพื่อน ๆ เปิด MP3 จะไม่มีเสียงมารบกวนเลย ตัวเครื่องจะมีปุ่ม Safety Key สำหรับหยุดฉุกเฉิน เพื่อป้องกันอันตรายที่ไม่คาดคิดครับ

เมื่อเพื่อน ๆ เสร็จจากการออกกำลังกายแล้ว เพื่อน ๆ สามารถพับเก็บได้ง่ายมาก ด้วยระบบ Hydraulic Folding มีล้อเลื่อน ๆ ทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้าย และสามารถเก็บได้อย่างง่ายดาย ไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บอีกด้วยครับ

ขนาดของตัวเครื่อง คือ 155 x 71 x 126 cm. มีนำ้หนัก 56 กิโลกรัม (G.W. 68 kg.) มาพร้อมกับระยะเวลาการรับประกัน 1 ปีครับ

จุดเด่น

  • ลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีกำลัง 3 แรงม้า แข็งแรง และทนทาน
  • สายพานกว้าง พื้นที่การวิ่งก็กว้าง และลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
  • หน้าจอการทำงานเป็นแบบ LCD แสดงข้อมูลต่าง ๆ อย่างครบถ้วน
  • รับน้ำหนักได้สูงสุดที่ 110 กิโลกรัม
  • ระบบโช้คคู่ Shock-absorbing design สามารถดูดซับแรงกระแทกจากการวิ่งได้เป็นอย่างดี
  • พับเก็บได้ง่าย มีล้อเลื่อน ๆ ทำให้เคลื่อนย้ายไปเก็บได้ง่าย
  • ได้มาตรฐาน RoHS, CE, TUS, GS และ SGS Certification



6. World Master Fitness ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น GT5

World Master Fitness ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น GT5

World Master Fitness ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น GT5 ลู่วิ่งไฟฟ้าลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีขนาดมอเตอร์ถึง 4 แรงม้า เรียกได้ว่าใครที่เป็นสายวิ่งในฟิตเนสจะต้องรักสิ่งนี้แน่นนอนค่ะ โดยสามารถปรับความเร็วได้ถึง 18 km/hr  มีระบบซึมซับแรงกระแทกที่ใช้ Shock-Absorber จะช่วยดูดซับแรงกระแทกแบบหลายชั้น สามารถปรับความชันช่วงเอียง 1-18% เพียงแค่กดปุ่ม มีช่องเชื่อมต่อเพื่อเล่น MP3 ที่มาพร้อมกับลำโพง ทำให้คุณสนุกสนานได้เต็มที่ หน้าจอมีพัดลมในตัวที่สลสามารถปรับความแรงของลมได้ มีระบบป้องกัน 2 ระดับ สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบสัมผัส มีโปรแกรมอัจฉริยะ 12 โปรแกรม และกำหนดได้เอง 3 โปรแกรม

จุดเด่น

  • เพิ่มโปรแกรมได้เอง 3 โปรแกรม
  • มีลำโพงมีระบบ Hi-Fi ที่มีกำลังสูง
  • มีฟังก์ชันวัดอัตราการเต้นของหัวใจ Hand Pulse
  • สามารถวิ่งได้ต่อเนื่อง 8-24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องพักเครื่อง
  • ใช้ Shock-Absorber ที่เป็นสปริงรองรับแรงสั่นสะเทือนจากการกระแทกได้ดี
  • รองรับการทำงานของระบบป้องกันอัคคีภัยได้ 2 ระดับ ทั้งหยุดฉุกเฉินและหยุดนิ่ง

ข้อควรพิจารณา 

ลู่วิ่งเครื่องนี้ไม่สามารถพับจัดเก็บแบบประหยัดพื้นที่ได้ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่เพียงพอต่อการติดตั้งใช้งาน

  • กำลังมอเตอร์ 4 แรงม้า
  • ความเร็ว 1 - 18 km/hr
  • ขนาดสายพาน 146 x 52 cm
  • รองรับน้ำหนัก 150 kg
  • พับจัดเก็บได้
  • การรับประกัน 1 ปี




7. ลู่วิ่ง FITEX R100M ลู่วิ่งไฟฟ้า 3 แรงม้า

ลู่วิ่ง FITEX R100M ลู่วิ่งไฟฟ้า 3 แรงม้า

ลู่วิ่ง FITEX R100M ลู่วิ่งไฟฟ้า 3 แรงม้า เป็นลู่วิ่งคุณภาพดี การใช้งานง่าย หน้าตาสวยเท่ ลู่วิ่งไฟฟ้ามาพร้อมกับ มอเตอร์ 3 แรงม้า ความเร็วอยู่ที่ 0.8 – 16 กม./ชม. ขนาดสายพาน 420 x 1260 มม.ครับ

ลู่วิ่งรุ่นนี้ มาพร้อมกับ ระบบ ComfortTech 6-Point Commercial Grade Damping System ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก USA โดยจะเปลี่ยนแรงกระแทกจากแนวตั้งให้เป็นแนวนอน ช่วยลดแรงกระแทกตามข้อของผู้วิ่งได้มากถึง 70%

สามารถปรับระดับความชันแมนนวลได้สามระดับ 0, 3, 5 องศา มีฐานลู่วิ่ง 2 ชั้น ช่วยในการรองรับแรงกระแทกเพิ่มขึ้น มีหน้าจอ LCD 5.5 นิ้ว แสดงหน้าจอ ความเร็ว ระยะทาง เวลา แคลลอรี่ และระดับชีพจร

การรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 110 กิโลกรัม มาพร้อมรับประกัน 1 ปี มอเตอร์ประกัน 7 ปี โครงสร้างเหล็กตลอดอายุการใช้งาน ตามเงื่อนไขของบริษัท เป็นลู่วิ่งคุณภาพ ที่ควรมีไว้ในบ้านอย่างยิ่งครับ

ขนาดตัวเครื่องก่อนพับ : 1630 x 750 x 1300มม.  ความเร็ว : 0.8 – 16 กม./ชม.   ขนาดสายพาน : 430 x 1260 มม.   น้ำหนัก : 58 กิโลกรัม

จุดเด่น

  • การใช้งานง่าย หน้าตาสวยเท่
  • มีระบบ Comfort Tech 6-Point Commercial Grade Damping System
  • การรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 110 กิโลกรัม
  • รับประกัน 1 ปี มอเตอร์ประกัน 7 ปี



8. Xiaomi Kingsmith K12 2-in-1 Walking & Running Pad

XIAOMI LITTLE KING (Xiaomi Kingsmith K12 Walking & Running Pad)

ให้การออกกำลังกายของคุณเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคยกับ ลู่วิ่งไฟฟ้า XIAOMI LITTLE KING (Xiaomi Kingsmith K12 Walking & Running Pad) ลู่วิ่งไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อสุขภาพ 2 in 1 ทั้งเดินและวิ่งได้ในเครื่องเดียว ที่ Xiaomi Mi ร่วมมือกับแบรนด์ Kingsmith ในการออกแบบการผลิต

มีระบบ vAuto ความเร็วเครื่องเปลี่ยนตามความเร็วที่วิ่ง สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม ควบคุมการทำงานด้วยรีโมทคอนโทรลพร้อมหน้าจอ LED ประหยัดพลังงาน เสียงเงียบเพียง 60 db เท่านั้น.

มาพร้อมดีไซน์สวยงามเรียบง่าย บางเบา น้ำหนักเพียง 33 กิโลกรัม ไม่ต้องประกอบตัวเครื่องให้ยุ่งยาก ใช้งานง่ายสะดวกรวดเร็วโดยการพับขึ้น-ลงเท่านั้น พร้อมล้อเลื่อนช่วยให้ไม่ต้องออกแรงยก โครงสร้างทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงทนทาน ระบบลู่วิ่งยืดหยุ่น รองรับแรงกระแทกได้ดี

  • ลู่วิ่งไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อสุขภาพ 2 in 1 ทั้งเดินและวิ่งได้ในเครื่องเดียว
  • ยี่ห้อ/รุ่น Xiaomi Kingsmith K12 2-in-1 Walking & Running Pad
  • มอเตอร์ แรงม้าสูงสุด 3 แรงม้า
  • ขนาดสายพาน 48 x 120 CM
  • ความเร็ว 0.8 – 12 กม ต่อ ชม.
  • รองรับน้ำหนักสูงสุด 100 kg



9. ลู่วิ่งไฟฟ้า 4.8 แรงม้า FITEX F90

ลู่วิ่งไฟฟ้า 4.8 แรงม้า FITEX F90

ลู่วิ่งไฟฟ้า 4.8 แรงม้า FITEX F90 มาพร้อมกับมอเตอร์ 4.8 แรงม้า (F90 มอเตอร์ DC* และ F1 มอเตอร์ AC) มีขนาดตัวเครื่องก่อนพับ 2050 x 930 x 1380 มม. ฐานลู่วิ่งแบบ 2 ชั้น รองรับแรงกระแทกได้เพิ่มมากขึ้น

  • มีระบบ โช๊คตัวใหญ่พิเศษ พร้อมด้วย ComfortTech 6-Point Commercial Grade Damping System ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก USA เปลี่ยนแรงกระแทกจากแนวตั้งให้เป็นแนวนอน ช่วยลดแรงกระแทกตามข้อของผู้ที่วิ่งได้มากถึง 70%
  • มีหน้าจอ LCD 7.5 นิ้ว แสดงหน้าจอ ความเร็ว ระยะทาง เวลา แคลลอรี่ และระดับชีพจร สามารถเชื่อมต่อกับมือถือ IOS และ Andriod ด้วย App เทรนเนอร์ส่วนตัว บันทึกข้อมูลการวิ่ง/ระยะทาง/เวลา/ชีพจร
  • และสามารถสั่งเพิ่มลดความเร็วจากมือถือได้ทันที มีโปรแกรมการออกกำลังกาย 12 Programs มีล้อ เคลื่อนย้ายง่าย สะดวก มีที่วางมือถือ กระบอกน้ำ และแทบเลต ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาลู่วิ่งดี ๆ ซื้อรุ่นนี้ครับ แนะนำเลย
  • มอเตอร์ : 4.8 แรงม้า (F90 มอเตอร์ DC* และ F1 มอเตอร์ AC)  ความเร็ว : 1 – 20 กม. /ชม.  ปรับความชันไฟฟ้า : 1-20 ระดับ  ขนาดสายพาน : 570 x 1450 มม.

จุดเด่น

  • ฐานลู่วิ่ง 2 ชั้น รองรับแรงกระแทกเพิ่มขึ้น
  • รองรับน้ำหนักสูงสุด 170 กิโลกรัม
  • Safety Key กุญแจนิรภัยป้องการอันตรายจากการใช้ลู่วิ่ง
  • ระบบ Stero สามารถฟังเพลง MP3 จากมือถือและ USB
  • พับเก็บได้ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ
  • มีล้อ เคลื่อนย้ายง่าย สะดวก
  • มีที่วางมือถือ กระบอกน้ำ และแทบเลต



10. B&G ลู่วิ่งไฟฟ้าและที่วัดชีพจร รุ่น F18

B&G ลู่วิ่ง ลู่วิ่งไฟฟ้า ลู่วิ่งฟิตเนส Treadmill

B&G ลู่วิ่ง ลู่วิ่งไฟฟ้า ลู่วิ่งฟิตเนส Treadmill มอเตอร์ สูงสุงได้ถึง3แรงม้า (Single Function) Treadmill - รุ่น F18 New สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้

ลู่วิ่งไฟฟ้าขนาด 3 แรงม้า ความเร็วในการวิ่ง 0.8-12 km/hr สามารถปรับความชันได้ 3 ระดับ ตั้งแต่ 0-5 องศา โดยการปรับแบบใช้มือ มาพร้อมที่วัดชีพจรและโช้คคู่แบบพิเศษที่รับแรงกระแทกได้ดี ทำงานได้เงียบมาก ไร้เสียงรบกวน โดยเฉพาะเข่าและข้อเท้า ขนาดสายพานกว้างวิ่งได้อย่างรู้สึกสบาย มีการเชื่อมต่อกับ App ผ่าน Bluetooth เล่นเพลงโดยใช้มือถือหรือสาย USB มี Safety Key ป้องกันอันตราย พับเก็บด้วยระบบไฮโดรลิก Hydraulic Folding พับได้ 90 องศา ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้ดี รับน้ำหนักสูงสุด 100 kg ออกแบบมาให้ประหยัดพลังงาน มีโปรแกรมมาให้เลือกเล่น 15 โปแกรม ทั้งยังมีฟังก์ชั่นตรวจจับชีพจร

รายละเอียด

  • สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้
  • ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าพลังงานสูงสุด 3.0 HP
  • หน้าจอ LCD แสดงข้อมูลครบถ้วน ความเร็ว เวลา ระยะทาง แคลอรี ชีพจร
  • ปรับความชันได้ที่ 0, 3 และ 5 องศา (Manual Inclination)
  • ประกันสินค้า 1 ปีตามเงื่อนไขบริษัท
  • รองรับมอเตอร์กำลัง 3 แรงม้า
  • รับน้ำหนักสูงสุด 100 กิโลกรัม
  • ความเร็วในการวิ่ง 0.8 - 12กม./ชม.
  • ระบบโช้คคู่รับแรงกระแทก ลดแรงกระแทกที่เข่าและข้อเท้า
  • มี App เทรนเนอร์วิ่งส่วนตัว บนมือถือผ่าน Bluetooth
  • ระบบหยอดน้ำมัน ยืดอายุการใช้งานลู่วิ่ง
  • ขนาดสายพาน (พื้นที่วิ่ง) 1200 x 420 มม.
  • รองรับ MP3 การเล่นเพลงผ่านมือถือและ USB
  • มี Safety Key ป้องกันอันตรายจากการใช้งาน
  • พับเก็บได้ ประหยัดพื้นที่ด้วยระบบไฮโดรลิก Hydraulic Folding
  • มีล้อเลื่อน สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย
  • ออกแบบสวยงาม มีที่วางแทปเลต กระบอกน้ำ และมือถือ
  • ขนาดเมื่อใช้งาน 160x 57 x 124ซม.
  • น้ำหนักเครื่อง 65 กิโลกรัม

จุดเด่น

  • Application ใช้ได้ทั้งกับระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
  • มีฟังก์ชั่นตรวจจับชีพจร

ข้อควรพิจารณา

แม้ปรับความชันได้ 3 ระดับ แต่เป็นระดับเพียงแค่ 0-5 องศาเท่านั้น อีกทั้งจะต้องปรับด้วยมือ ไม่มีปุ่มกดแบบปรับเองอัติโนมัติ จึงอาจจะไม่สะดวกสบายในการวิ่งเท่าที่ควร



ลู่วิ่งไฟฟ้าคืออะไร


ลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill)
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee

ลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ใช้ไฟฟ้า ที่มีขนาดใหญ่ หรือ บางคนอาจจะเรียกว่า Treadmill คือ การออกกำลังกายโดยการวิ่งบนสายพาน เป็นการออกกำลังกายในร่มไม่ขึ้นกับสภาพอากาศ ใช้พื้นที่น้อย ใช้พลังงานมากใช้ในการลดน้ำหนักได้ดี ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ การออกกำลังด้วยเครื่องนี้คุณสามารถออกกำลัง โดยการเดินเร็วๆ หรืออาจจะวิ่งก็ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของคุณ และเป็นเครื่องช่วยคาร์ดิโอที่ง่ายที่สุด แต่ผู้ใช้งานหลายๆท่าน ยังใช้งานไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ บางครั้งการใช้งานลู่วิ่งยังเกิดอุบัติเหตุ ลื่นบนสายพานได้ ถ้าไม่ระมัดระวัง 

ข้อดีของการมีลู่วิ่งไฟฟ้าไว้ที่บ้านหรือที่พักอาศัย

  • เป็นเครื่องออกกำลังกายที่ใช้พลังงานมากกว่าเครื่องมือชนิดอื่น
  • มีผลดีต่อสุขภาพและเผาผลาญพลังงานมากกว่าอุปกรณ์ชนิดอื่น ทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ดี รูปร่างดีขึ้น พบว่าการออกกำลังการโดยการวิ่งบนสายพานจะใช้พลังงาน 700 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมงมากกว่าการขี่จักรยาน 200 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมง
  • การออกกำลังโดยการวิ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคกระดูกพรุน ปวดหลัง ความดันโลหิตสูง
  • สามารถออกกกำลังกายได้สม่ำเสมอตลอดการออกกำลังกาย เพราะสามรถตั้งความเร็วของการเดินหรือวิ่ง
  • การออกกำลังบนสายพานวันละ 45 นาทีอาทิตย์ละ 5 วันสามารถลดการเกิดไข้หวัดลงได้ครึ่งหนึ่ง
  • คนท้องกสามารถออกกำลังกายโดยการเดิน

เราควรใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าหรือไม่ ?

หากเราเป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย ชอบการวิ่งหรือการเดินแล้วล่ะก็ การที่เรามี ลู่วิ่งไฟฟ้า ไว้ติดบ้าน จะเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลยจะทำให้เราสนุกสนานเพลิดเพลินกับการออกกำลังกาย และไม่ต้องลำบากไปข้างนอกด้วย

การที่มีลู่วิ่งไฟฟ้าไว้ใช้เป็นของตัวเอง จะช่วยให้เรา ประหยัดค่าสมาชิกฟิตเนส ประหยัดเวลาเดินทางในการไปออกกำลังกายนอกบ้าน ถ้าเรา กำลังฟิตร่างกายด้วยการวิ่งหรือเดินอยู่แล้ว

ซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าไว้ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ ยิ่งถ้าที่พักของเรา ห่างไกลจากสวนสาธารณะด้วยแล้ว คงลำบากมากที่จะไปออกกำลังกายไกล ๆ มีลู่วิ่งไฟฟ้าไว้ใช้ที่บ้าน เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

วิธีการเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่ดีที่สุดสำหรับเรา

1. เลือกตามยี่ห้อสินค้า

แบรนด์เครื่องออกกำลังกาย ลู่วิ่งไฟฟ้า ในท้องตลาดมีเยอะแยะมากมาย ดังนั้น ไม่ง่ายเลยที่เราจะรู้ได้ว่า ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีและคุ้มค่ากับการใช้งานของเราได้มากที่สุด แต่สิ่งที่เป็นหลักประกันถึงความน่าเชื่อของแบรนด์ พิจารณาได้จาก 3 อย่างนี้

  • ต้องเป็นยี่ห้อที่มีมาตรฐานการผลิต โดยดูได้จากจะมีรับรอง [Certificate] จากโรงงาน
  • ต้องมีใบรับประกันสินค้าที่ระบุการรับประกันชัดเจน
  • เลือกซื้อกับร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของยี่ห้อนั้น ๆ และต้องมีการจดทะเบียนการค้าอย่างชัดเจน

ต้องพิจารณาจาก 3 ข้อนี้ เพื่อความน่าเชื่อถือและความมั่นใจของเราในการส่งเคลมสินค้า รวมถึงการเรียกร้องในกรณีที่ร้านค้าไม่ทำตามสัญญาในการรับประกันสินค้า

2. ความแรงของมอเตอร์

ความแรงของมอเตอร์เป็นตัวบ่งบอกถึงวัตถุประสงค์ของการใช้งาน การที่คุณจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าควรคิดว่าจะใช้ลู่วิ่งเพื่อการใช้งานในรูปแบบใด เช่น สำหรับเดิน สำหรับวิ่งที่บ้าน หรือสำหรับวิ่งเร็วอย่างในฟิตเนส เพราะความแรงของลู่วิ่ง นั้นจะดูจากหน่วยของลู่วิ่งคือแรงม้า ถ้าหากคุณต้องการใช้สำหรับเดินควรเลือกมอเตอร์ลู่วิ่งไฟฟ้า 1 แรงม้า หากต้องการลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับวิ่งในบ้านควรเลือกมอเตอร์ 2 – 3 แรงม้า และ หากต้องการใช้การวิ่งเร็วอย่างในฟิตเนสควรเลือกมอเตอร์ 4 แรงม้าขึ้นไป มอเตอร์ที่ความแรงมากมักจะมีเสียงดังหากไม่มีระบบลดเสียงรบกวนและความแรงมอเตอร์ที่มากจะมีราคาค่อนข้างสูงดังนั้นหากคุณไม่ได้ต้องการใช้งานอย่างมืออาชีพก็ไม่จำเป็นต้องซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีความแรงมาก

น้ำหนักตัวของเรามีความสัมพันธ์กับมอเตอร์ของ ลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill) ดังนั้น วิธีเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่อง นอกจากน้ำหนักของตัวเราและน้ำหนักตัวเครื่องลู่วิ่งไฟฟ้าแล้ว ยังต้องดูไปถึงมอเตอร์ของแต่ละเครื่อง จะมีแรงม้าที่ให้กำลังในการรองรับน้ำหนักที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งมีวิธีคำนวณง่ายๆ ดังนี้

การคำนวณน้ำหนักที่ลู่วิ่งสามารถรองรับได้เวลาวิ่งของเรา คือ ให้เอาน้ำหนักจริง คูณ 3 และนำไป หาร 2 จะได้น้ำหนักที่แท้จริงที่ลู่วิ่งจะรองรับได้ ยกตัวอย่างเช่น น้ำหนักผู้ใช้ 65 Kg. คือ 65 x 3 / 2 = 97.5 Kg. เมื่อได้ตัวเลขเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถนำตัวเลขดังกล่าว ไปเปรียบเทียบที่สเป็คของลู่วิ่งนั้นๆ ได้เลย

นอกเหนือจากน้ำหนักที่ลู่วิ่งรองรับได้ ก็ยังมีขนาดของมอเตอร์ ที่เป็นอีกส่วนนึงที่ช่วยให้การเลือกลู่วิ่งของเราเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยให้นำมาเปรียบเทียบกับขนาดมอเตอร์ด้านล่าง เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของเราได้เช่นกัน

  • สำหรับน้ำหนักที่ลู่วิ่งรองรับได้ 50 – 80 Kg. ให้เลือกลู่วิ่งที่มี มอเตอร์ขนาด 2.0 – 2.75 แรงม้า
  • สำหรับน้ำหนักที่ลู่วิ่งรองรับได้ 80 – 100 Kg. ให้เลือกลู่วิ่งที่มี มอเตอร์ขนาด 3.0 แรงม้า
  • สำหรับน้ำหนักที่ลู่วิ่งรองรับได้ 100 – 150 Kg. ให้เลือกลู่วิ่งที่มี มอเตอร์ขนาด 4.0 แรงม้า
  • กรณีน้ำหนักที่ลู่วิ่งรองรับได้มากกว่า 150 Kg. ให้เลือกลู่วิ่งในเกรดสินค้าฟิตเนส เพื่อให้รองรับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม

หากเราเลือกลู่วิ่งที่ไม่เหมาะสมตามน้ำหนักตัวเราแล้ว สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ คือ ขณะที่เราใช้ลู่วิ่งจะเกิดอาการ สายพานกระตุก หรือเครื่องอืดเวลาวิ่ง

3. ขนาดของลู่วิ่ง สายพาน และ พับเก็บได้

คุณควรตรวจสอบขนาดของลู่วิ่งที่คุณสนใจอย่างละเอียด เพราะบางรุ่นมีขนาดใหญ่มาก คุณอาจจะมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการจัดวางลู่วิ่งในห้องนั้น ๆ แต่ลู่วิ่งหลาย ๆ รุ่นก็สามารถจัดพับเก็บได้ นี่จึงอาจเป็นทางเลือกอีกที่ดีในการพิจารณาเลือกซื้อลู่วิ่งของคุณ เพราะคุณสามารถพับเก็บให้เรียบร้อยหลังการใช้งานได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นได้ดี โดยเฉพาะรุ่นที่พับสูงสุดถึง 90 องศา ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างประหยัด อาทิเช่น คอนโด หอพัก หรืออพาร์ทเม้นท์ เป็นต้น นอกจากนี้ก่อนซื้อลู่วิ่งคุณควรเตรียมและหาพื้นที่ในวางหรือติดตั้งลู่วิ่งไฟฟ้าก่อนซื้อ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาพื้นที่ไม่เพียงทีหลัง 

ขนาดของสายพาน ก็เป็นอีกสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ ยิ่งมีขนาดกว้างและยาวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งวิ่งได้อิสระมากขึ้นเท่านั้น โดยขนาดความกว้างขั้นต่ำ สำหรับที่จะแน่ใจได้ว่าคุณสามารถวิ่งได้อย่างสะดวก คือ 40-45 cm ส่วนความยาวของสายพานนั้น ถ้าเป็นขนาดพื้นฐานเราขอแนะนำที่ 120 cm หากคุณต้องการเลือกจากการใช้งาน ก็ดูว่าคุณเน้นใช้งานแบบไหน ถ้าคุณเน้นเดินช้าหรือเดินเร็ว ก็ไม่ควรต่ำกว่า 100 cm หรือถ้าคุณต้องการวิ่งทั่ว ๆ ไป ความยาวไม่ควรต่ำกว่า 120 cm นอกจากนี้ส่วนสูงเองก็เป็นอีก หนึ่งปัจจัยในการเลือกความยาวของสายพานเช่นกันค่ะ หากคุณสูงเกิน 180 cm คุณจะต้องใช้สายพานอย่างน้อย 130 cm สำหรับการเดิน และสายพานขนาด 140 cm สำหรับการวิ่ง

4. ความเร็วของลู่วิ่ง การปรับระดับความชัน

ความเร็วของลู่วิ่งมีหน่วยเป็นกิโลเมตร/ชั่วโมงเช่นเดียวกันรถยนต์ การเลือกความเร็วสูงสุดของลู่วิ่งนั้นควรเลือกตามจุดประสงค์การใช้งาน เช่น Zone 1 0 – 5 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้สำหรับเดินเร็ว , Zone 2 6 – 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้สำหรับวิ่งจ๊อกกิ้ง , Zone 3 11 – 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้สำหรับวิ่งเร็ว และ Zone 4 16 – 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ให้สำหรับสปริ้น การซื้อลู่วิ่งที่ความเร็วสูงแต่ไม่ได้ใช้จะเป็นการสิ้นเปลืองเงินมากเกินไป ทางที่ดีควรซื้อลู่วิ่งที่พอดีกับการใช้งาน ความเร็วที่เหมาะสมและสามารถเผาผลาญไขมันได้ดีคือ 6 – 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ลู่วิ่งไฟฟ้าจะสามารถปรับระดับความชันได้ซึ่งเป็นข้อดีอย่างมากเนื่องจากเมื่อคุณใช้ความชันมากก็จำทำให้ร่างกายเผาผลาญได้มากและทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีมากยิ่งขึ้น การปรับระดับความชันนั้นสามารถปรับได้ทั้งแบบไฟฟ้าและแบบปรับมือโดยใส่สลัก ซึ่งลู่วิ่งที่สามารถปรับด้วยไฟฟ้าจะมีราคาที่แพงกว่าแต่จะมีความสะดวก การปรับระดับความชันจะแบ่งออกเป็น % ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ตั้งแต่ระดับ 0 , 5 , 10 , 15 %

5. หน้าจอ และโปรแกรมการทำงาน

ลู่วิ่งไฟฟ้าควรมีโปรแกรมการทำงานของเครื่องที่เป็นโปรแกรมหลัก 6 อย่างคือ ค่าความเร็ว ค่าความชัน ปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญ ระยะทางที่วิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจ เวลาในการวิ่ง นอกจากจากนี้จะเป็นฟังก์ชันเสริมที่เพิ่มเข้ามาไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงmp3 การปรับตั้งค่าการวิ่งอัตโนมัติ ซึ่งการปรับค่าอัตโนมัตินี้ใช้งานง่ายและมีความสนุก การทำงานของฟังก์ชั่นนี้คือเครื่องจะปรับความเร็ว ความชันเองโดยอัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องปรับ เช่นเมื่อกำหนดเวลาให้ 20 นาที ลู่วิ่งจะความเร็วขึ้นเองทุกๆ2นาทีและลดความเร็วลงทุก 2 นาที ซึ่งมีความสนุกสนานและท้าทายทำให้คุณสนุก

คุณสมบัติเพิ่มเติมที่เราควรมองหาในลู่วิ่งไฟฟ้าที่ดี คือ หน้าจอโทรทัศน์ที่ติดตั้งบนลู่วิ่งเพื่อความเพลิดเพลินในการวิ่งเพราะจะทำให้ผู้ใช้วิ่งได้นานและอึดมากขึ้น ไม่เกิดอาการเบื่อหน่าย หน้าจอนี้ควรจะเชื่อมต่อแอปพลิเคชันมือถือและที่ชาร์จเพื่อให้เกิดความสะดวกและป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับผู้ใช้ครับ

6. การรับประสินค้าและการบริการหลังการขาย

การรับประกันสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากลู่วิ่งเครื่องหนึ่งราคาไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคุณควรสอบถามการรับประกันให้ละเอียดว่า รับประกันอะไหล่ชิ้นไหนบ้าง ถ้าเสียส่งซ่อมที่ไหน ระยะเวลาในการซ่อม การซื้อออนไลน์นั้นก็สามรถทำได้และคุณจะไม่สามารถดูสินค้าได้จึงต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ

หากคุณจะตัดสินใจซื้อ เครื่องออกกำลังกายสักเครื่อง นอกจากตัว ลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill) ที่เหมาะกับคุณแล้ว การเลือกร้านให้ถูกก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน มีบริการหลังการขายสำคัญยังไง

หลายๆครั้งจะได้ยินปัญหาของลูกค้า เรื่องบริการหลังการขายอยู่ตลอดเวลา ในบางเคส ประกันยังมีอยู่แต่ติดต่อร้านที่ซื้อไม่ได้แล้ว หรือติดต่อแล้วช่างไม่มาสักทีต้องรอนานเป็นเดือนๆ หรือบางเคสก็ไม่มีประกันสินค้า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่สำคัญ เลือกร้านที่พร้อมเตรียมทีมช่างผู้ชำนาญงาน พร้อมให้บริการหลังการขายอย่างรวดเร็ว เข้าหน้างานภายใน 2-3 วันหากเครื่องมีปัญหา

7. เลือกตามงบประมาณ

เนื่องจากลู่วิ่งไฟฟ้านั้นมีราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับสเป็คเครื่องและยี่ห้อสินค้า ดังนั้น การที่เราจึงควรใช้ข้อมูลในข้อ 1 และ 2 มาพิจารณา เพื่อหาเครื่องที่เหมาะสม และให้อยู่งบที่กำหนดไว้ เพราะจะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และอย่าลืมสอบถามโปรโมชั่นกับทางร้านค้า รวมถึงถามข้อมูลของลู่วิ่งไฟฟ้าเครื่องที่คุณสนใจให้มากที่สุด เพื่อที่เราจะได้สินค้าตามงบที่ตั้งไว้ พร้อมกับการใช้งานที่ครอบคลุมกับความต้องการ


บทสรุป
ลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill)

เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะมีเจ้าเครื่องออกกำลังกาย ลู่วิ่งไฟฟ้า แบบนี้ไว้ที่บ้านสักเครื่องสักที เพื่อช่วยให้คุณได้สร้างหุ่นที่สวยงามและร่างกายที่แข็งแรงแล้วล่ะ ลู่วิ่งไฟฟ้า ช่วยให้คุณได้ออกกำลังกายที่บ้านได้ โดยไม่ต้องกังวลกับสภาพอากาศหรือการเสี่ยงอันตรายภายนอกบ้าน อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายจะต้องออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ไม่ออกกำลังอย่างหักโหมเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ และเมื่อคุณมีลู่วิ่งไฟฟ้าอยู่ที่บ้านคุณสามารถวิ่งได้อย่างสม่ำเสมอทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาทีก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดี ลู่วิ่งไฟฟ้า สามารถใช้ได้กับทุกคนในครอบครัวเป็นการเพิ่มกิจกรรมภายในบ้านแล้วยังได้สุขภาพที่ดีอีกด้วย อย่างมัวรอช้ารีบไปหาจับจองเป็นเจ้าของกันเลยดีกว่า ถ้ารอไปนาน ๆ เจ้าไขมันจะเกาะหนามากขึ้นก็เป็นได้นะ เราขอสนับสนุนให้คนไทยทุกคนควรออกกำลังกายอยางน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้่งเพื่อจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นและแน่นอนว่าจะห่างไกลจากโรคอย่างแน่นอน

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น