น้ำมันเครื่องรถยนต์ เปรียบเหมือนเลือดที่หมุนเวียนอยู่ในร่างกาย ที่หากเลือดสะอาดและมีการไหลเวียนที่ดีก็จะส่งผลดีต่ออวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายด้วย เช่นเดียวกับรถยนต์ที่มีน้ำมันเครื่องเป็นสารหล่อลื่นของเครื่องยนต์ ช่วยทำให้รถสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนดกันอยู่เสมอเพื่อสมรรถนะที่ดีของเครื่องยนต์และประสิทธิภาพการใช้ทำงานของรถคุณ
 |
| น้ำมันเครื่อง (Engine Oil) เช็คราคาจาก Lazada เช็คราคาจาก Shopee |
สารบัญ
น้ำมันเครื่อง คืออะไร?
ประเภทของน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ดี
10 อันดับ น้ำมันเครื่อง รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2022
1. น้ำมันเครื่อง Valvoline DURABLEND 5W-30
2. CALTEX น้ำมันเครื่อง Havoline Synthetic Blend 10W-40
3. SHELL น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ Helix HX7 ดีเซล 15W-40
4. PTT PERFORMA SYNTHETIC ECO CAR 0w-20
5. FURiO น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ F1 เกรดPremium 0W-20 อีโค่ คาร์
6. Mobil 1 0W-20 Advanced Fuel Economy
7. น้ำมันเครื่อง คาสตรอล แม็กนาเทค ปิคอัพ SAE15W-40
8. PTT Dynamic Commonrail Synthetic
9. น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน ZIC (ซิค) X7 SAE 10W-40
10. LIQUI MOLY SPECIAL TEC AA 5W-30
หลักในการเลือกน้ำมันเครื่อง
ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
วิธีการเช็กระดับน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องพร่อง เติมเองได้ไหม
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากคุณไม่เปลี่ยนไม่น้ำมันเครื่อง
บทสรุป
น้ำมันเครื่อง คืออะไร?
น้ำมันเครื่อง คือ ของเหลวที่ช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ โดยจะไปสร้างชั้นฟิลม์บาง ๆ เคลือบชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องยนต์ ลดการเสียดสีกันในการทำงานของเครื่องยนต์ ลดความร้อนของเครื่องยนต์ และช่วยป้องกันการรั่วของกำลังอัด
ประเภทของน้ำมันเครื่อง
1. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์
ผลิตโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานเป็นน้ำมันสังเคราะห์ ผสมกับสารเติมแต่งโดยตรงเช่นกัน แต่จะต่างกันตรงที่มีการใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ทางเคมีแล้ว ซึ่งมีการกำจัดจุดด้อยต่าง ๆ ออกไป และเพิ่มเติมคุณสมบัติที่จำเป็นเข้ามา ทำให้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์มีคุณภาพมากที่สุด ราคาแพงสุด แต่แลกมาด้วยระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายที่ยืดออกไปประมาณ 10,000-12,000 กิโลเมตร2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
ผลิตโดยใช้ทั้ง 3 ส่วนมาผสมกันคือ น้ำมันดิบ ผสมกับน้ำมันสังเคราะห์ และนำไปผสมกับสารเติมแต่งอีกหนึ่งส่วน ทำให้คุณภาพมันอยู่กึ่งกลาง ระหว่าง 2 ประเภทแรก ราคาก็จะถูกลงมาด้วย ระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายคือ 5,000-7,000 กิโลเมตร3. น้ำมันเครื่องธรรมดา
ผลิตโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานเป็นน้ำมันดิบ ผสมกับสารเติมแต่งโดยตรง ไม่มีผ่านกระบวนการใด ๆ ทางเคมีเลย ยังมีจุดด้อยอยู่ ส่งผลให้น้ำมันเครื่องธรรมดาเป็นน้ำมันที่มีคุณภาพน้อยที่สุด มีราคาถูก มีระยะเวลาควรเปลี่ยนถ่ายสูงสุดไม่เกิน 7,000 กิโลเมตร ซึ่งในปัจจุบันแทบจะไม่มีอยู่แล้วหรือถ้ามีเราก็ไม่แนะนำหากรถของคุณเป็นรถรุ่นใหม่และน้ำมันเครื่องก็แบ่งแยกตามประเภทเครื่องยนต์ด้วย โดยมีน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน จะใช้อักษร S (Station Service) เช่น SA, SB, SN ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล จะใช้น้ำมันเครื่องที่มีอักษร C (Commercial Service) เช่น CA, CD, CJ-4
น้ำมันเครื่องรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ดี
น้ำมันเครื่องแบ่งออกเป็น 3 แบบ แต่ละแบบจะมีระยะการเปลี่ยนถ่ายที่ไม่เหมือนกัน โดยน้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา ควรเปลี่ยนที่ 5,000 - 7,000 กิโลเมตร, น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนที่ 7,000 - 10,000 กิโลเมตร และน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนที่ 10,000 -15,000 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบน้ำมันเครื่องอยู่เสมอว่าเสื่อมสภาพก่อนระยะที่กำหนดหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่องดีเซลหรือน้ำมันเครื่องเบนซินก็ตาม เพราะการใช้งานเครื่องยนต์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์ การบรรทุก สภาพรถยนต์ และการใช้งานของแต่ละคนด้วย
ประโยชน์ของน้ำมันเครื่องรถยนต์ คือส่วนสำคัญในการทำงานของเครื่องยนต์ เป็นสารหล่อลื่นเครื่องยนต์ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และหากไม่ดูแลน้ำมันเครื่องรถยนต์ให้ดี ปล่อยเลยกำหนดที่ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จะส่งผลต่อการระบายร้อนภายในเครื่องยนต์ได้ วันนี้เราได้รวบรวมยี่ห้อน้ำมันเครื่องรถยนต์แบบกึ่งสังเคราะห์และสังเคราะห์ รวมทั้งค่าความหนืด ระยะการใช้งาน มาฝากกันตามไปดูกันเลย
10 อันดับ น้ำมันเครื่อง รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2022
1. น้ำมันเครื่อง Valvoline DURABLEND 5W-30
 |
| น้ำมันเครื่อง Valvoline DURABLEND 5W-30 |
น้ำมันเครื่อง Valvoline DURABLEND 5W-30
น้ำมันเครื่อง Valvoline DURABLEND 5W-30 น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน SYNTHETIC BLEND ดูราเบลน น้ำมันเครื่องยนต์เบนซินกึ่งสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานสังเคราะห์คุณภาพสูง และสารเพิ่มคุณภาพเทคโนโลยีขั้นสูง ดูราเบลนช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานด้วยสมรรถนะสูงสุด ป้องกันการสึกหรอ ลดการสะสมของคราบเขม่า อัตราการระเหยของน้ำมันต่ำ น้ำมันไหลเวียนได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องทั่วไป ดูราเบลนให้การปกป้องสูงสุดแม้ในสภาวะที่เครื่องยนต์ทำงานหนัก ออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซินทั้งที่ติดตั้งและไม่ติดตั้งเทอร์โบชาร์จ รวมทั้งรถยุโรป รถญี่ปุ่น ตลอดจนเครื่องยนต์ที่ใช้แก๊ส (NGV/LPG) เป็นเชื้อเพลิง ทุกชนิดดูราเบลน น้ำมันเครื่องยนต์เบนซินกึ่งสังเคราะห์ ให้การปกป้องที่ดีเยี่ยมสำหรับเครื่องยนต์เบนซินระบบฉีดตรง (TGDI) ช่วยป้องกันความเสียหายของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์จากการชิงจุดระเบิดในรอบเดินเบา (LSPI)
รายละเอียดสินค้า
- น้ำมันเครื่อง Valvoline DURABLEND 5W-30
- เกรด : กึ่งสังเคราะห์
- ค่าความหนืด : SAE 10W-40
- ระยะการใช้งาน : 8,000-10,000 กม. หรือ 6 เดือน
- ขนาดบรรจุ : 4 ลิตร
2. CALTEX น้ำมันเครื่อง Havoline Synthetic Blend 10W-40
 |
| CALTEX น้ำมันเครื่อง Havoline Synthetic Blend 10W-40 |
CALTEX น้ำมันเครื่อง Havoline Synthetic Blend 10W-40
CALTEX น้ำมันเครื่อง Havoline Synthetic Blend 10W-40 สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ฮาโวลีนซินเธติก เบลนด์ ให้การปกป้องเครื่องยนต์อย่างยอดเยี่ยมทนต่อความร้อนสูงและยังช่วยยืดอายุการเปลี่ยนถ่าย สูตรป้องกันคราบเขม่า " Deposit Shield"มีคุณประโยชน์ดังนี้- สารเพิ่มคุณภาพจะเคลือบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ปกป้องจากคราบเขม่าและคราบสกปรกซึ่งเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์- ช่วยให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์สะอาดและเครื่องยนต์แรงเต็มกำลัง- ช่วยให้เครื่องยนต์สึกหรอน้อย ยืดอายุเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับ เครื่องยนต์รถยนต์นั่ง และรถบรรทุกขนาดเล็ก ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทั้งที่ติดตั้งเทอร์โบ และ แบบดูดอากาศธรรมดา
รายละเอียดสินค้า
- CALTEX น้ำมันเครื่อง Havoline Synthetic Blend 10W-40 4 ลิตร
- สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
- ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์
- ยืดอายุเครื่องยนต์
- ช่วยให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์สะอาด
3. SHELL น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ Helix HX7 ดีเซล 15W-40
 |
| SHELL น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ Helix HX7 ดีเซล 15W-40 |
SHELL น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ Helix HX7 ดีเซล 15W-40
SHELL น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ Helix HX7 ดีเซล 15W-40 น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ มีส่วนผสมของน้ำมันแร่และน้ำมันสังเคราะห์เพื่อเสริมคุณสมบัติให้ดีกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไป ใส่สารพิเศษช่วยป้องกันการสึกหรอและยืดอายุการใช้งาน ช่วยรักษาความสะอาดและป้องกันการก่อตัวของคราบเขม่าและคราบสกปรก ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
รายละเอียดสินค้า
- SHELL น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ Helix HX7 ดีเซล 15W-40 (6 ลิตร)
- เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซล
- คืนความสะอาดให้เครื่องยนต์ดีเซลเพื่อตอบสนองทุกอัตราเร่ง
- เป็นน้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์มาพร้อมกับเทคโนโลยี Flex Molecule
- ผลิตจากน้ำมันพื้นฐาน 2 ชนิดคือน้ำมันสังเคราะห์และน้ำมันแร่ จึงให้ประสิทธิภาพการทำงานได้สูงกว่าน้ำมันเครื่องที่ผลิตจากน้ำมันแร่พื้นฐานเพียงอย่างเดียว
- ป้องกันคราบสกปรกที่เป็นตัวบ่อนทำลายสมรรถนะเครื่องยนต์
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์โดยการป้องกันการสึกหรอ แม้เผชิญกับสภาพการจราจรในแต่ละวัน
- ปกป้องเครื่องยนต์จากการสีกหรอได้ดีกว่า 40% เมื่อเทียบกับคำมาตรฐานในเกรด CI-4
- ลดการเกิดตะกอนในเครื่องยนต์ไห้ดีกว่า 58% เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานอุตสาหารรม
- หล่อลื่นได้ดีที่อุณหภูมิต่ำขณะสตาร์ทเศรื่องยนต์
- ระยะเปลี่ยนถ่าย 7,000 km
4. PTT PERFORMA SYNTHETIC ECO CAR 0w-20
 |
| PTT PERFORMA SYNTHETIC ECO CAR 0w-20 |
PTT PERFORMA SYNTHETIC ECO CAR 0w-20
สังเคราะห์ แท้ 100 น้ำมันเครื่อง ปตท เพอร์ฟอร์มา ซินเธติค อีโค 0w20 เบนซิน น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% สำหรับรถอีโคคาร์โดยเฉพาะ ทั้งระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบทั่วไป (ฉีดด้านหลังวาล์วไอดี, PFI) หรือแบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ (GDI / Turbo-GDI) มีคุณสมบัติพิเศษช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองอัตราเร่งระดับขีดสุดทุกช่วงความเร็ว และปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้ดียิ่งขึ้นสูงสุด 38% รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหลายประเภท ได้แก่ เบนซินล้วน (ULG) และแก๊สโซฮอล์ (E10, E20 และ E85)
รายละเอียดสินค้า
- เพอร์ฟอร์มา ซินเธติค อีโค คาร์
- [PERFORMA SYNTHETIC ECO CAR] น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100- คุณภาพสูง ออกแบบมาสำหรับรถยนต์อีโคคาร์โดยเฉพาะ โดดเด่นในด้านการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานในเมือง สภาพการจราจรติดขัดซึ่งต้องมีการออกตัวและหยุดบ่อยครั้ง ช่วยเพิ่มการตอบสนองต่ออัตราเร่งให้กับเครื่องยนต์ด้วยฟิล์มหล่อลื่นเบอร์ความหนืด SAE 0W-20 ที่มีความเสียดทานต่ำและมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ จึงลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้สูงสุดทันทีที่สตาร์ท
- การใช้งาน
- • ออกแบบสำหรับรถยนต์เบนซินรุ่นใหม่ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะรถยนต์กลุ่มอีโคคาร์ ที่คู่มือแนะนำเบอร์ความหนืด SAE 0W-20
- • แนะนำสำหรับรถยนต์นั่งที่ใช้งานในเมืองที่ต้องมีการออกตัวและหยุดบ่อยครั้ง
- • ใช้ได้กับเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงทั้งเบนซินล้วน (ULG) และเบนซินผสมเอทานอล (Gasohol E10 E20 และ E85)
- คุณสมบัติพิเศษ
- • เพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น ด้วยความเสียดทานที่ต่ำเป็นพิเศษของเบอร์ความหนืด SAE 0W-20
- • โดดเด่นในด้านการทนความร้อนและความคงตัวต่อการเสื่อมสภาพของน้ำมันที่สูง
- • ควบคุมการเกิดตะกอนและคราบเกาะติด ทำให้เครื่องยนต์สะอาดสูงสุดตลอดระยะเปลี่ยนถ่าย
- • ให้การหล่อลื่นได้อย่างดีเยี่ยมและรวดเร็วทันทีที่สตาร์ท เพื่อให้เครื่องยนต์สึกหรอน้อยที่สุด ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ให้ยาวนาน
- มาตรฐาน
- • API SN
- • ILSAC GF-5
- -ptt -pttperforma -pttperformasyntentic -eco -car -ecocar -น้ำมันเครื่อง -lubricant -lubricantoil -ปตท -เบนซิน -แท้ -ขายส่ง -ขายส่งinbox -ปตท -เพอฟอม่า -ซินเธนติค -น้ำมันเครื่องปตท -สังเคราะห์แท้100
5. FURiO น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ F1 เกรดPremium 0W-20 อีโค่ คาร์
 |
| FURiO น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ F1 เกรดPremium 0W-20 อีโค่ คาร์ |
FURiO น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ F1 เกรดPremium 0W-20 อีโค่ คาร์
FURiO น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ F1 เกรดPremium 0W-20 อีโค่ คาร์ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ผลิตจากนวัตกรรม Respoplex Technology ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ขณะสตาร์ต ลดการสึกหรอแม้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิการทำงานที่ร้อนจัด ชะล้างทำความสะอาดเขม่าและตะกอน รักษาความสะอาดของกระบอกสูบ ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์
รายละเอียดสินค้า
- FURiO น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ F1 เกรดPremium 0W-20 อีโค่ คาร์ (4 ลิตร)
- สูตรพิเศษสังเคราะห์ 100% ให้การหล่อลื่นที่รวดเร็ว ปกป้องเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์ทันทีเมื่อเริ่มสตาร์ท
- เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด (Fuel Economy) ด้วยเบอร์ความหนืด SAE 0W-20
- เพิ่มความสามารถในการชะล้างและกระจายเขม่าตะกอน ทำให้เครื่องยนต์สะอาด ลดเขม่า
- ทนความร้อนสูง ไม่เสื่อมสลายตัวง่าย ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
- สูตรพิเศษ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
6. Mobil 1 0W-20 Advanced Fuel Economy
 |
| Mobil 1 0W-20 Advanced Fuel Economy |
Mobil 1 0W-20 Advanced Fuel Economy
น้ำมันเครื่อง Mobil1 0W-20 Advanced Fuel Economy น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% มีคุณสมบัติช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดเหมือนใหม่ สูตรสังเคราะห์ขั้นสูง ความหนืดต่ำ มีสารช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการประหยัดเชื้อเพลิง ช่วยทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์
รายละเอียดสินค้า
- Mobil 1 0W-20 Advanced Fuel Economy
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และปรับปรุงการประหยัดเชื้อเพลิง
- ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย - เพื่อการปกป้องที่ยาวนาน
- รองรับการสตาร์ทอย่างรวดเร็วในสภาพอากาศหนาวเย็นและการปกป้องที่รวดเร็ว – ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์
- Mobil 1™ 0W-20 Advanced Fuel Economy ให้การหล่อลื่นโดยรวมที่ยอดเยี่ยมและประสิทธิภาพการป้องกันการสึกหรอสำหรับรูปแบบการขับขี่และเงื่อนไขต่างๆ ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับรุนแรง โดยแนะนำให้ใช้ 5W-20 หรือ 0W-20
- Mobil 1™ 0W-30 Advanced Fuel Economy ให้การหล่อลื่นโดยรวมที่ยอดเยี่ยมและประสิทธิภาพการป้องกันการสึกหรอสำหรับสไตล์การขับขี่และสภาวะต่างๆ ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับรุนแรง โดยแนะนำให้ใช้ 10W-30, 5W-30 หรือ 0W-30
- การอนุรักษ์ทรัพยากร API SN Plus, SN Plus, SN, SM, SL, SJ
- อิลซัค GF-5
- ฟอร์ด WSS-M2C947-A
- ฟอร์ด WSS-M2C947-B1
- General Motors dexos1™ Gen 2 (หมายเลขใบอนุญาต D10105GH015)
- เจนเนอรัล มอเตอร์ส GM 6094M
- API CF
7. น้ำมันเครื่อง คาสตรอล แม็กนาเทค ปิคอัพ SAE15W-40
 |
| น้ำมันเครื่อง คาสตรอล แม็กนาเทค ปิคอัพ SAE15W-40 |
น้ำมันเครื่อง คาสตรอล แม็กนาเทค ปิคอัพ SAE15W-40
น้ำมันเครื่อง คาสตรอล แม็กนาเทค ปิคอัพ SAE15W-40 น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ เหมาะกับเครื่องยนต์คอมมอนเรล ใส่สารพิเศษช่วยปกป้องเครื่องยนต์ระหว่างการอุ่นเครื่อง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การสึกหรอของเครื่องยนต์เกิดขึ้นถึง 75% และทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุดตลอดการเดินทาง รักษาความหนืดให้คงที่ ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
รายละเอียดสินค้า
- น้ำมันเครื่อง คาสตรอล แม็กนาเทค ปิคอัพ SAE15W-40 ขนาด 6แถม1 ลิตร Castrol Magnatec Pick-Up SAE15W-40 Packed 6+1L l สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เกรดกึ่งสังเคราะห์ l Oilsquare ออยสแควร์
- เพิ่มฟิล์มชั้นน้ำมันที่แข็งแรง ช่วยเคลือบผิวของชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อช่วยป้องกันการสึกหรอ
- เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลให้ตอบสนองอัตราเร่งได้ดี และทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- รักษาความหนืดให้คงที่ ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
- สตาร์ทติดง่ายแม้ในสภาวะการทำงานที่อุณหภูมิต่ำ ๆ
8. PTT Dynamic Commonrail Synthetic
 |
| PTT Dynamic Commonrail Synthetic |
PTT Dynamic Commonrail Synthetic
PTT ปตท คอมมอนเรลซินเทติก 5W-30 7ลิตร Dynamic Commonrail Synthetic น้ำมันเครื่องยนต์ ดีเซล สังเคราะห์แท้ 100% เหมาะกับเครื่องยนต์ระบบคอมมอนเรล เช่น รถปิกอัพ, รถเก๋งดีเซล, รถยนต์อเนกประสงค์ประเภท MPV และ SUV คุณสมบัติพิเศษช่วยทำให้เครื่องยนต์สะอาด ควบคุมเขม่า ป้องกันการเกิดโคลน เพิ่มอัตราการเร่งแซง เพิ่มระดับการปกป้องเครื่องยนต์เต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานยาวนานสูงสุด
รายละเอียดสินค้า
- น้ำมันเครื่อง ดีเซล PTT DYNAMIC COMMONRAIL SYNTHETIC ปตท ไดนามิค คอมมอนเรล ซินเธติค 5W30 / 5W40 (1L)
- น้ำมันเครื่องดีเซลสังเคราะห์ 100- สูตรพิเศษ สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรียลรุ่นใหม่ของรถปิคอัพ ช่วยรักษาความสะอาดเครื่องยนต์และเทอร์โบชาร์จเจอร์ได้ดีเยี่ยม เพิ่มการตอบสนองของเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด ป้องกันการเกิดโคลนน้ำมัน
- การใช้งาน
- • ออกแบบสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล รุ่นใหม่ของรถปิคอัพ และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ประเภท MPV และ SUV ที่ไม่ติดตั้ง DPF
- • แนะนำสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลรถยนต์นั่งที่ผู้ผลิตแนะนำให้ใช้ ACEA A5/B5 (SAE 5W-30) และ ACEA A3/B4 (SAE 5W-40)
- • เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลของรถปิคอัพ และรถขนส่งเชิงพาณิชย์ที่มีระบบหมุนเวียนไอเสีย (EGR) และเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ไม่ติดตั้ง DPF
- คุณสมบัติพิเศษ
- • ให้เครื่องยนต์สะอาด และป้องกันคราบจับติดบนลูกสูบและเทอร์โบชาร์จเจอร์ ช่วยปรับปรุงสมรรถนะและการตอบสนองของเครื่องยนต์
- • มีฟิล์มน้ำมันที่แข็งแรง ปกป้องเครื่องยนต์และเทอร์โบชาร์จเจอร์จากการสึกหรอได้ดีทุกสภาวะการใช้งาน
- • ปรับปรุงคุณสมบัติความเสียดทานและความหนืดที่เหมาะสม เพื่อการปกป้องทันทีที่สตาร์ทเครื่องยนต์และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด
- • ทนความร้อน และการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนได้สูง จึงป้องกันการเสื่อมสภาพของน้ำมันได้เป็นอย่างดี
- • เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมเขม่าเพื่อลดโคลนน้ำมันและยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
- -ปตท -ไดนามิค -คอมมอนเรล -ซินเธติค -PTT -DYNAMIC -COMMONRAIL -SYNTHETIC -5W30 -5w40 -shopeebuddy
9. น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน ZIC (ซิค) X7 SAE 10W-40
 |
| น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน ZIC (ซิค) X7 SAE 10W-40 |
น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน ZIC (ซิค) X7 SAE 10W-40
น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน สังเคราะห์แท้ 100% ZIC (ซิค) X7 SAE 10W-40 ขนาด 4 ลิตร น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์แท้ ราคาเบาๆ ใช้งานมากถึง12,000กิโลเมตร ประหยัดเงินและเวลา ได้มาตรฐาน API SN PLUS เหมาะสำหรับรถยนต์เบนซินทั่วไป รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) และรถยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภท ปกป้องเครื่องยนต์ต่อการสึกกร่อนได้ดี เครื่องยนต์สะอาดเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ รุ่นนี้สามารถใช้ได้นานมากถึง 12,000กิโลเมตรซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้นานมากยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดงบประมาณและประหยัดเวลาได้มาก หากใครกำลังมองหาน้ำมันเครื่องราคาประหยัดใช้ได้นานๆ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยเราขอแนะนำยี่ห้อนี้เลย
รายละเอียดสินค้า
- โฉมใหม่ น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน สังเคราะห์แท้ 100% ZIC (ซิค) X7 SAE 10W-40 ขนาด 4 ลิตร
- น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน สังเคราะห์แท้ 100%ยี่ห้อ: ZIC (ซิค)
- สำหรับเครื่องยนต์: เบนซินรุ่น: X7 SAE 10W-40
- เกรด: สังเคราะห์แท้ 100%
- ขนาด: 4 ลิตร
- เหมาะสําหรับ: รถยนต์เบนซินทั่วไป, รถยนต์ไฮบริด(Hybrid Car) และรถยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภท
- มาตรฐาน:API SN PLUS
10. LIQUI MOLY SPECIAL TEC AA 5W-30
 |
| LIQUI MOLY SPECIAL TEC AA 5W-30 |
LIQUI MOLY SPECIAL TEC AA 5W-30
น้ำมันเครื่องรถยนต์ เบนซิน LIQUI MOLY SPECIAL TEC AA BENZINE 10W30 4 ลิตร สังเคราะห์แท้ API SN Plus+RC;ILSAC GF-5 ลดปัญหาเครื่องน็อค 10000-15000 km. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ลดการสึกหรอ ช่วยให้เครื่องยนต์สะอาด เหมาะกับรถบ้าน ประหยัดน้ำมัน น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ขนาด 4 ลิตร สามารถใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เหมาะกับรถ Eco รถบ้าน รถใช้งานทั่วไปรถเอเชีย และรถอเมริกัน (AA) หรือรถเครื่องยนต์เบนซินที่มี turbocharger หรือ catalytic converter ให้ความหล่อลื่นพิเศษรวดเร็วและช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ใช้งานได้นาน ใช้งานได้ดี เครื่องยนต์สะอาด
รายละเอียดสินค้า
- น้ำมันเครื่องรถยนต์ เบนซิน LIQUI MOLY SPECIAL TEC AA BENZINE 10W30 4 ลิตร สังเคราะห์แท้ API SN Plus+RC;ILSAC GF-5 ลดปัญหาเครื่องน็อค 10000-15000 km.
- LIQUI MOLY SPECIAL TEC AA 10W30
- FULLY SYNTHETIC TECHNOLOGY.
- เป็นมาตรฐานน้ำมัน API SN Plus+RC;ILSAC GF-5
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ Fully Synthetic
- เครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น
- ออกแบบมาเพื่อรถญี่ปุ่นและอเมริกัน ลดปัญหา LSPI (LOW SPEED PRE-IGNITION)
- ใช้กับเครื่องยนต์ที่มีเทอร์โบแปรผันรุ่นใหม่ๆ ที่มีความจุน้อย แต่ต้องการรีดสมรรถนะในการขับขี่ได้สูงขึ้นอย่างดีออกแบบมาให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ของค่ายรถญี่ปุ่นและอเมริกัน
- ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
- ทำความสะอาดเครื่องยนต์ ช่วยลดการสึกหรอ ช่วยป้องกันการสึกหรอ
- หล่อลื่นเครื่องยนต์ได้รวดเร็วที่อุณหภูมิต่ำ
- ลดการปล่อยมลพิษ ลดอัตราการเกิดภาวะเรือนกระจก
- เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพทั้งในอุณหภูมิสูง และต่ำ
- รถสำหรับการแข่งขัน
- รถปิกอัพ
- รถนั่งส่วนบุคคล
- รถที่ใช้งานหนัก ใช้ขับระยะยาว
- รถที่มีปัญหา LSPI
- การันตีที่ 10000-15000 km.
- Made in Germany.
หลักในการเลือกน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่อง (Engine Oil)
เช็คราคาจาก Lazada เช็คราคาจาก Shopee
เช็คราคาจาก Lazada เช็คราคาจาก Shopee
1. เลือกน้ำมันเครื่องให้ตรงตามชนิดเครื่องยนต์
1.1 น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
น้ำมันเครื่องประเภทนี้จะมีค่ามาตรฐานที่ขึ้นต้นด้วยตัว S เช่น API SM, API SN, API SN Plus เป็นต้น โดยน้ำมันเครื่องเบนซินที่ได้มาตรฐาน API จะช่วยปกป้องการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้ดี ทนต่อความร้อน และประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีกว่าน้ำมันที่ไม่ได้มาตรฐาน
1.2 น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
น้ำมันเครื่องประเภทนี้จะมีค่ามาตรฐานที่ขึ้นต้นด้วยตัว C เช่น API CJ-4, API CK-4 เป็นต้น โดยน้ำมันเครื่องดีเซลที่ได้มาตรฐาน API จะช่วยรองรับการทำงานที่ค่อนข้างหนักของเครื่องยนต์ดีเซลได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องที่ไร้มาตรฐาน API แน่นอน
2. เลือกประเภทของน้ำมันเครื่อง หรือเกรดของน้ำมันเครื่อง
2.1 น้ำมันเครื่องธรรมดา (Synthetic)
ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม ใช้งานได้ประมาณ 3,000-5,000 กม.2.2 น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic)
ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นธรรมดากับชนิดสังเคราะห์ ใช้งานได้ประมาณ 5,000-7,000 กม.2.3 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic)
ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์จากน้ำมันปิโตรเลียม ใช้งานได้ประมาณ 7,000-10,000 กม.
3. เลือกจากค่าความหนืด (ค่า SAE) หรือเบอร์น้ำมันเครื่อง
บนฉลากน้ำมันเครื่องจะแสดงค่า SEA (Society of Automotive Engineers) คือ มาตรฐานน้ำมันเครื่องของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ ที่เอาไว้แสดงค่าความหนืดหรือความข้นใสของน้ำมันเครื่อง ทั้งที่อุณหภูมิต่ำและสูง ซึ่งที่วางขายในประเทศไทยส่วนใหญ่จะระบุไว้ ดังนี้
ตัวเลขชุดแรก คือ ค่าการทนความเย็นของน้ำมันเครื่อง หรือค่าความต้านทานการเป็นไขของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ ซึ่งมีตั้งแต่ 0-20W
ตัวเลขชุดหลัง คือ ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องที่อุณหภูมิสูง มากน้อยขึ้นอยู่กับตัวเลข มีตั้งแต่ 5, 10, 20, 30, 40, 50 และ 60 ตามลำดับ โดยความหนืดที่เหมาะสมสำหรับเครื่องยนต์ทั่วไปอยู่ที่ 20-40
โดยทั่วไป ที่ตัวเลข 30 น้ำมันจะมีความหนืดน้อย มีความใสมาก เหมาะกับรถยนต์คันใหม่ที่พึ่งเริ่มใช้งาน หรือมีการวิ่งสะสมมาแล้วไม่เกิน 200,000 กิโลเมตร ส่วนตัวเลข 40 น้ำมันจะมีความหนืดปานกลาง มีความใสลดลง เหมาะกับรถยนต์ที่วิ่งเกิน 200,000 กิโลเมตร เป็นต้นไป และตัวเลข 50 ตัวน้ำมันจะใสน้อยมากและมีความหนืดสูง เหมาะกับรถยนต์เก่า ส่วนน้ำมันเครื่องตัวเลข 50 นั้นไม่ค่อยพบเจอแล้วในปัจจุบัน ฉะนั้น อย่าลืมตรวจสอบค่าความหนืดกันด้วย
ซึ่งค่าต่าง ๆ เหล่านี้สามารถดูได้จากคู่มือการใช้รถเพื่อเลือกน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดให้กับรถยนต์ของเรา
4. ค่ามาตรฐานที่บ่งบอกคุณภาพของน้ำมันเครื่อง
จากที่เราได้กล่าวถึงวิธีการสังเกตว่าน้ำมันเครื่องนั้นเหมาะสำหรับเครื่องยนต์ประเภทใดไปแล้ว ซึ่งความหมายเต็ม ๆ ของพวกตัวอังษร API SN หรือ API CI-4 คือ ค่ามาตรฐานที่บ่งบอกถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่อง โดยสามารถแบ่งออกตามประเภทเครื่องยนต์ได้ดังนี้
- น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน เรียงจากค่ามาตรฐานต่ำไปสูงที่ SL, SM, SN โดยค่า SN เป็นค่ามาตรฐานน้ำมันเครื่องยนต์เบนซินที่ดีที่สุดในตอนนี้
- น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซล เรียงจากค่ามาตรฐานต่ำไปสูงที่ CH-4, CI-4, CJ-4 โดยค่า CJ-4 เป็นค่ามาตรฐานน้ำมันเครื่องยนต์ดีเซลที่ดีที่สุดในตอนนี้
หากใครไม่อยากเสียเวลาคิดคำนวณมาก ก็สามารถเลือกใช้ตัวค่ามาตรฐานที่ดีที่สุดไปเลยก็ได้ เพราะส่วนใหญ่น้ำมันเครื่องในท้องตลาดก็จะมีค่ามาตราฐานที่สูงที่สุดอยู่แล้วด้วย
ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ระยะเวลาตามที่คู่มือกำหนดจะอยู่ที่ 6 เดือน หรือทุกๆ 8,000-10,000 กิโลเมตร แต่ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ด้วย เช่น ถ้าใช้งานรถบ่อย ขับทุกวัน เดินทางไกลบ่อยๆ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 กิโลเมตร หากนับเป็นเวลาก็ทุกๆ 3 เดือน แล้วสำหรับรถยนต์ที่จอดเก็บให้ฝุ่นเกาะเล่น ขับไม่บ่อย ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา 6 เดือน เพราะน้ำมันเครื่องเก่าๆ ก็มีผลต่อประสิทธิภาพและเครื่องยนต์ได้
วิธีการเช็กระดับน้ำมันเครื่อง
หลังจากดับเครื่องและรอจนเครื่องเย็นแล้ว เปิดฝากระโปรงรถ หาก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องให้เจอ ดึงออกมาในแนวตรง ใช้ผ้าเช็ดน้ำมันเครื่องออกจากก้านก่อน ซึ่งแนะนำว่าไม่ควรใช้กระดาษทิชชูเป็นอันขาด เพราะอาจมีเศษกระดาษติดลงไป จากนั้นเสียบก้านลงไปที่เดิมจนสุด ดึงก้านออกมาในแนวตรงอีกครั้ง ดูระดับของน้ำมันเครื่องบนก้าน ระดับน้ำมันเครื่องที่ไว้ใจได้คืออยู่ในระดับกลางระหว่างขีด L (Low) และขีด F (Full Max)
แล้วแบบไหนเรียกว่าเติมน้ำมันเครื่องเกิน ซึ่งก็คือไม่ควรเกินครึ่งถึงหนึ่งเซนติเมตรของขีด F บนก้านวัด มากไปก็ไม่ดี เนื่องจากน้ำมันเครื่องล้น ขณะรถวิ่งน้ำมันเครื่องจะกระเด็นออกไปที่กระบอกสูบ หน่วงเครื่องไปอีก วิธีแก้ปัญหาหากเติมน้ำมันเครื่องเกิน ควรหาสายยางขนาดเล็กมาดูดออก แต่ควรเป็นสายยางที่สะอาดและแข็งแรง เพราะหากสายยางขาดระหว่างกำลังดูด การแก้ไขจะยากกว่าเดินทางไปศูนย์จ้างเขาให้ถ่ายน้ำมันเครื่องออกสักนิด
น้ำมันเครื่องพร่อง เติมเองได้ไหม
คำตอบคือได้แน่นอน ไม่จำเป็นต้องวิ่งไปหาช่างให้ยุ่งยาก ยิ่งถ้ามีขวดน้ำมันเครื่องที่เหลือหลังจากเปลี่ยนน้ำมันเครื่องจากร้านเก็บไว้ ย้ำว่าควรเป็นยี่ห้อเดียวกันจะดีที่สุด ยกเว้นว่าคุณอยู่กลางสถานการณ์ที่ยุ่งยาก มีเหตุจำเป็นต้องเติมต่างยี่ห้อ ก็สามารถใช้ได้ เพียงแค่ดูสเปกและความหนืดที่เท่ากับตัวเดิมเพียงจอดรถในที่ราบเพื่อให้วัดระดับน้ำมันเครื่องแบบถูกต้อง หากรวยเสียบก่อนจึงค่อยๆ เทน้ำมันเครื่องลงไป แนะนำให้เติมทีละนิด คอยเช็กเป็นระยะ เพื่อให้ไม่ให้เกินขีด F นั่นเอง
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากคุณไม่เปลี่ยนไม่น้ำมันเครื่อง
- ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ลดลง เมื่อเครื่องยนต์เกิดการทำงานที่ผิดปกติหรือมีสมรรถภาพในการทำงานลดลงผู้ใช้งานจะสามารถสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงได้
- เร่งไม่ค่อยขึ้น น้ำมันเครื่องรถยนต์เป็นตัวหล่อลื่นในเครื่องยนต์ หากน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพและมีการสะสมสิ่งสกปรกในเครื่องยนต์ที่มากเกินก็จะทำให้น้ำมันเครื่องหล่อลื่นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้เครื่องอืด เร่งไม่ขึ้น จากที่เหยียบนิดเดียวก็ไปกลายเป็นเร่งไม่ขึ้นได้
- ระบบไฟมีปัญหา น้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพส่งผลให้ระบบไฟรถยนต์มีปัญหาได้ เช่น ไฟไม่ค่อยสว่าง ไฟกระพริบ ไฟติด ๆ ดับ ๆ ฯลฯ
- กินน้ำมัน เมื่อมีการเร่งเครื่องยนต์มากขึ้นก็จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น และส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้น จากเดิมที่เติมเท่านี้และสามารถขับได้เท่านี้ ก็ขับได้ในระยะที่สั้นลง
- เสียงเครื่องยนต์ดังผิดปกติ โดยจะส่งเสียงออกมาจากห้องเครื่องเมื่อสตาร์ทรถ เป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้ทราบว่าควรตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้แล้ว เพราะเป็นสัญญาณเตือนที่ค่อนข้างอันตรายเลยทีเดียว
- เครื่องยนต์เกิดการโอเวอร์ฮีท เป็นข่าวร้ายสำหรับเครื่องยนต์ เพราะถ้าเครื่องยนต์เกิดการโอเวอร์ฮีทหรือมีความร้อนมากเกินไปก็จะทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถใช้งานได้หรือพัง
 |
| น้ำมันเครื่อง (Engine Oil) เช็คราคาจาก Lazada เช็คราคาจาก Shopee |
บทสรุป
จะเห็นได้ว่าน้ำมันเครื่องมีหลากหลายยี่ห้อแล้วแต่ความชอบและสมรรถนะที่ต้องการ ทั้งนี้ ต้องเลือกให้เหมาะกับเครื่องยนต์ การทำความสะอาดเครื่องยนต์รถ ให้มีประสิทธิภาพ วิ่งได้ดีเหมือนเครื่องยนต์ใหม่อยู่เสมอ ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนด หากใครที่ไม่อยากให้เครื่องยนต์พังไปก่อนเวลา เพราะ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้นานมากขึ้น เพื่อรักษารถคู่ใจให้อยู่กับเราไปนาน ๆ และหมั่นตรวจเช็คสภาพน้ำมันเครื่องว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนหรือยัง เพราะสามารถเปลี่ยนก่อนเวลาได้ ทั้งนี้ยังรวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเบรค และน้ำมันต่าง ๆ ตามระยะด้วย และควรเลือกน้ำมันเครื่องที่ดีมีคุณภาพีเพื่อรถของคุณ
0 ความคิดเห็น