Just for You

แนะนำ 10 อันดับ อาหารเสริมแคลเซียม ยี่ห้อไหนดี ปี 2022

อาหารเสริมแคลเซียม ตัวช่วยสำคัญสำหรับคนที่มีปัญหากระดูกและข้อ เพื่อให้ได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ  การเสริมแคลเซียมบำรุงกระดูกและการรับประทานอาหารเสริมบำรุงกระดูกเป็นสิ่งที่ช่วยให้กระดูกมีความแข็งแรง  สำหรับในร่างกายของมนุษย์ แล้วมีกระดูกเป็นแกนหลัก ซึ่งองค์ประกอบสำคัญของกระดูกก็คือแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดี สำหรับการดื่มนมเป็นประจำ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ รวมทั้งการได้รับแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้าและเย็น ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกได้เป็นอย่างดี แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น มวลกระดูกจะลดน้อยลง ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน กระดูกไม่แข็งแรง นอกจากนั้น ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร หากได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้ร่างกายขาดแคลเซียมได้ จึงควรรับประทานอาหารเสริมบำรุงกระดูกและข้อ เช่น แคลเซียมเม็ด แคลเซียมเม็ดฟู่ นมเสริมแคลเซียม เป็นต้น เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ อันจะส่งผลดีให้กระดูกมีความแข็งแรง ไม่เปราะหักหรือแตกง่าย

อาหารเสริมแคลเซียม (Calcium Supplements)
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee

สารบัญ

แคลเซียม (Calcium)
ประเภทอาหารเสริมแคลเซียม
10 อันดับ อาหารเสริมแคลเซียม ยี่ห้อไหนดี ปี 2022
1. Kirkland Calcium Citrate Magnesium and Zinc with Vitamin D3
2. DHC Calcium Magnesium
3. 21st Century, Calcium Magnesium Zinc + D3
4. Mega Calcium D
5. Blackmores Calcium
6. THE NATURE Calcium Plus Collagen peptide & Soy Protein
7. Clover Plus แคลแคท แคลเซียม พลัสวิตามิน
8. Real Elixir Cal-Cal Plus Vit D, K
9. GIFFARINE Cal-D-Mag 600
10. Vistra Calplex Calcium 700 Mg Plus Boron
การเลือกอาหารเสริมแคลเซียม
ใครเหมาะสำหรับการทานอาหารเสริมแคลเซียม
ปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละช่วงอายุ
ปัจจัยส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม
แหล่งอาหารแคลเซียม
ประโยชน์ของแคลเซียม
เคล็ดลับรักษาลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
ข้อควรระวังในการใช้
บทสรุป


แคลเซียม (Calcium)

แร่ธาตุที่สำคัญที่ ร่างกายต้องการในการใช้สร้างกระดูกและฟัน เพิ่มความหนาแน่นให้มวลกระดูก ทำให้กระดูกมีความแข็งแรง และยังมี อยู่ในเลือดซึ่่งจะมีบทบาทควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล  การหดตัวของกล้ามเนื้อ การเต้นของหัวใจ การแข็งตัวของเลือดเมื่อมีบาดแผล  การทำงานของระบบประสาท และช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์แคลเซียมเองได้  เราจึงได้รับแคลเซียมจากการรับประทานอาหาร หากได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอร่างกายจะดึงแคลเซียมที่สะสมอยู่ในกระดูกออกมาใช้ เมื่อเกิดขึ้นเป็นประจำแคลเซียมในกระดูกจะถูกดึงออกมามาก จนกระทั่งกระดูกพรุนและเปราะ ทำให้ความแข็งแรงของกระดูกลดลงจึงเกิดโอกาสแตกหักได้ง่ายแม้ว่าได้รับแรงกระแทกเพียงเล็กน้อย 

อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารให้ได้ปริมาณแคลเซียม  อย่างเพียงพอต่อวันอาจทำได้ยาก  จึงทำให้เกิดภาวะขาดแคลเซียมได้ เพื่อป้องกันการขาดแคลเซียม อาหารเสริมแคลเซียมนั้นจึงกลายเป็นตัวเลือกหนึ่งของผู้รักสุขภาพ ปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน  สำหรับวัย 40+ คือ 1,000 - 1,200  มิลลิกรัม  ต่อวัน


ประเภทอาหารเสริมแคลเซียม

  • แคลเซียมซิเทรท (Calcium Citrate) มีปริมาณแคลเซียมต่ำกว่าแคลเซียมคาร์บอเนตแต่ดูดได้ง่ายและดี ดูดซึมได้ 50% เป็นแคลเซียมที่ต้องกินพร้อมอาหาร เพราะทำงานได้ต่อเมื่อมีกรดในกระเพาะ

  • แคลเซียมอะมิโน แอซิต คีเลต เป็นคีเลตของแคลเซียมกับกรดอะมิโนซึ่งละลายน้ำได้ดี ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ 80-90% ขึ้นไป ไม่ต้องอาศัยวิตามินดีเพื่อดูดซึม ไม่ตกค้างในร่างกายให้เกิดนิ่วหรือสิ่งไม่พึงประสงค์ ส่วนที่เหลือเพียง 10-20% จะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ ซึ่งคนเป็นโรคไตรับประทานได้

  • แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) มีปริมาณแคลเซียมอยู่ 40 % เมื่อเปรียบเทียบแล้วน้อยกว่าแคลเซียมตัวอื่น ๆ ดูดซึมได้ค่อยข้างต่ำ ประมาณ 10 % หลังรับประทานในบางคนอาจอาการ ท้องอืด หรือ ท้องผูก
  • แคลเซียมกลูโคเนต( calcium gluconate ) อัตราการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายก็ไม่ค่อยแน่นอน ควรรับประทานยาพร้อมหรือหลังอาหาร ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในกระเพาะอาหาร
  • แคลเซียม แอล ทรีโอเนต (Calcium L Theonate) ดูดซึมได้ 95% ซึ่งเป็นแคลเซียมที่สกัดจากพืช ได้จากข้าวโพด สามารถดูดซึมได้ดีที่สุด ตกค้างน้อยไม่ทำให้ท้องอืดหรือท้องผูก และไม่จำเป็นต้องพึ่งพา วิตามิน D หรือทานพร้อมอาหาร สามารถรับประทานตอนท้องว่างได้เลย
สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมแต่ยังไม่ไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหนดีแบบไหนดี วันนี้เรามี อาหารเสริมแคลเซียม จากหลากหลายยี่ห้อพร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อไปดูกันเลย


10 อันดับ อาหารเสริมแคลเซียม ยี่ห้อไหนดี ปี 2021



1. Kirkland Calcium Citrate Magnesium and Zinc with Vitamin D3

Kirkland Calcium Citrate Magnesium and Zinc with Vitamin D3


Kirkland Calcium Citrate Magnesium and Zinc with Vitamin D3 เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันกระดูกพรุน ข้อเสื่อม ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และตะคริว สูตรพิเศษเพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันกระดูกพรุน ข้อเสื่อม ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และตะคริว– Calcium: แคลเซียมซิเตรตให้ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ดมากที่สุด และดูดซึมได้ดีกว่าแคลเซียมทั่วไป  Vitamin D3: ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม– Magnesium: ควบคุมการเข้าออกของแคลเซียมเพื่อสร้างกระดูกและฟัน ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความเครียด  Zinc: ช่วยผลิตฮอร์โมนเพื่อการสร้างกระดูก รักษาไขข้ออักเสบ เพิ่มภูมิคุ้มกัน



2. DHC Calcium Magnesium

DHC Calcium Magnesium


DHC Calcium Magnesium 60Days ดีเอชซี แคลเซียม แมกนีเซียม อาหารเสริมบำรุงกระดูกและฟัน บำรุงระบบประสาท เป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดการเกิดตะคริวนอกจากนี้แร่ธาตุทั้งสองยังควบคุมระบบประสาทให้ทำงานไปเป็นปกติอีกด้วย แร่ธาตุทั้งสองตัวนี้จะทำงานร่วมกัน เพื่อให้ร่างกายดำเนินไปอย่างสมดุล ในภาวะที่มีความเครียดสูง แคลเซียมในร่างกายจะถูกดูดซึมเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อมากเกินไป ทำให้เกิดอาการตะคริว แต่ถ้ามีแมกนีเซียมในร่างกายอย่างเพียงพอ แมกนีเซียมจะเป็นตัวช่วยควบคุมสมดุลของแคลเซียม ไม่ให้เข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อมากเกินไป  เหมาะสำหรับ :คนที่ทำงานหนักๆ มีความเครียดสูง เพราะแคลเซียมแมก นอกจากจะ บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยควบคุมระบบประสาทให้ให้ทำงานเป็นปกติด้วย



3. 21st Century, Calcium Magnesium Zinc + D3

21st Century, Calcium Magnesium Zinc + D3


21st Century, Calcium Magnesium Zinc + D3, 90 Tablets แคลเซียม และแมกนีเซียม ในสัดส่วน 2:1 เพื่อความสมดุลในการหดและคลายของกล้ามเนื้อ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยให้ระบบเผาผลาญเป็นปกติ เสริมสร้างและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ป้องกันตะคริวหรืออาการปวดกล้ามเนื้อน่องและต้นขา และวิตามินดี3 ช่วยในป้องกันโรคเยื่อบุตาอักเสบ ลดการอักเสบของเยื่อบุตา




4. Mega Calcium D

Mega Calcium D


Mega Calcium D 60 Capsules - เมก้า วีแคร์ แคลเซียม ดี 60 แคปซูล แคลเซียมบำรุงกระดูก ลดการเกิดตะคริว เสริมสร้างการเจริญเติบโต ลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกพรุน กระดูกบาง ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง เพราะกระดูกทีเปราะบาง ทำให้คุณภาพชีวิตเปลี่ยนไป  คุณประโยชน์ บำรุงกระดูก ให้กระดูกแข็งแรง เพิ่มมวลและความหนาแน่นของกระดูก ป้องกันกระดูกพรุน กระดูกบาง ช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้เป็นปกติ  ลดการเกิดตะคริว ใครควรรับประทาน วัยเด็ก - วัยรุ่น ทีสามารถกลืนเม็ดยาได้ ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูก เพิ่มความสูง ผู้ทีออกกำลังกาย ใช้กล้ามเนื้อมากๆ ผู้ทีเป็นตะคริวบ่อยๆ  ผู้หญิงตั้งครรภ์ ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกแม่ ป้องกันภาวะกระดูกพรุน เนื่องจากขณะตั้งครรภ์ร่างกายต้องดึงมวลกระดูกจากแม่ไปให้ลูก ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน  เนื่องจากฮอร์โมนเพศหญิงลดลง ทำให้เสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน ส่วนประกอบใน 1 แคปซูล แคลเซียมคาร์บอเนต 1500 มก. ให้ แคลเซียม 600 มก. วิตามินดี 3 ขนาด 200 IU วิธีการรับประทาน เด็ก,ผู้ใหญ่ 1 เม็ดต่อวัน วัยรุ่น วัยชรา หญิงตั้งครรภ์ 1-2 เม็ดต่อวัน



5. Blackmores Calcium

Blackmores Calcium


Blackmores ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Calcium 60 เม็ด เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน  ทุกเพศทุกวัย และสตรีวัยหมดประจำเดือน สตรีมีครรภ์ เตรียมพร้อมจะมีบุตร หรือให้นมบุตร แคลเซียมมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรงแบลคมอร์ส แคลเซียม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมชนิดเม็ด ให้คุณค่าของสารอาหารแคลเซียมและวิตามินดี แคลเซียมมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและอายุยืนจำเป็นต่อต่อการเจริญเติบโตทั้งกระดูกและฟันช่วยให้เซลล์ร่างกายทำงานปกติช่วยในการสื่อสารของระบบประสาทช่วยในการหดตัวของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายช่วยให้การเต้นของหัวใจปกติมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการแข็งตัวของเลือดช่วยควบคุมความดันให้ปกติจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันและการกระบวนทำลายเชื้อก่อโรคต่างๆจำเป็นต่อระบบสืบพันธุ์





6. THE NATURE Calcium Plus Collagen peptide & Soy Protein

THE NATURE Calcium Plus Collagen peptide & Soy Protein


THE NATURE Calcium Plus Collagen peptide & Soy Protein อาหารเสริมบำรุงกระดูก แคลเซียมบำรุงร่างกาย 30 แคปซูล ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้กับร่างกาย ให้มีความหนาแน่น แข็งแรง รวมถึงช่วยในพัฒนาการการเจริญเติบโตของร่างกาย กระดูกและเพิ่มส่วนสูง โดยวัยที่กำลังเจริญเติบโตจะเป็นช่วงวัยที่ร่างกายสามารถสร้างมวลกระดูกและเพิ่มส่วนสูงได้ดีที่สุด และยังสามารถเสริมสร้างมวลกระดูกได้เรื่อยๆ จนไปคงที่ในช่วงอายุประมาณ 30 ปี แต่ร่างกายก็ยังคงจำเป็นต้องรับแคลเซียมอย่างต่อเนื่อง เพราะกระดูกจะมีการสร้างและเสื่อมสลายตลอดเวลา และเป็นการป้องกันโรคกระดูกพรุน กระดูกหักง่ายไปในตัว เพราะเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ร่างกายจะมีการสลายของกระดูกที่เพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุหลายๆคนมักจะประสบปัญหากระดูกพรุน วัยผู้สูงอายุจึงเป็นวัยที่ต้องการแคลเซียมมากเป็นพิเศษ เราจึงจำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างมวลกระดูก รับประทานแคลเซียมเพื่อบำรุงและซ่อมแซมกระดูกอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ตอนนี้

  • ช่วยเสริมสร้างและบำรุงรักษากระดูกให้แข็งแรง
  • ช่วยสร้างและเพิ่มมวลกระดูกให้กับร่างกาย
  • ช่วยป้องกันการเกิดกระดูกพรุน
  • ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูก ช่วยเพิ่มส่วนสูง




7. Clover Plus แคลแคท แคลเซียม พลัสวิตามิน

Clover Plus แคลแคท แคลเซียม พลัสวิตามิน

Clover Plus แคลแคท แคลเซียม พลัสวิตามิน ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม บำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน ประกอบด้วยแคลเซียมทั้ง 2 ชนิดมีส่วนช่วยเสริมสร้างระดับแคลเซียมบำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุนในทุกวัยเสริมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นในการดูดซึมแคลเซียมแคลเซียม อะมิโน แอซิด คีเลต เป็นแคลเซียมที่มีอัตราการดูดซึมดี ประมาณ 75 – 90 %ไอรอน อะมิโน แอซิด คีเลต องค์ประกอบสำคัญของการสร้างเซลล์กระดูกช่วยป้องกันและรักษาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กวิตามินดี 3 ช่วยเสริมการใช้แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟันไม่ทำให้ท้องผูก ไม่ทำให้ท้องอืดวิธีรับประทาน วันละ 2 แคปซูล พร้อมมื้ออาหาร หรือ หลังมื้ออาหารขนาดบรรจุ : 1 กระปุก บรรจุ 30 แคปซูล



8. Real Elixir Cal-Cal Plus Vit D, K

Real Elixir Cal-Cal Plus Vit D, K


Real Elixir Cal-Cal Plus Vit D, K (แคลเซียม 1,500 มก.) บรรจุ 30 เม็ด - เหมาะสำหรับผู้ที่ปวดข้อเข่า กระดูกเปราะ กระดูกบาง และช่วยเสริมแคลเซียมให้กับร่างกาย รักษา สมดุลของระดับแคลเซียมในเลือดและ กระดูกช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เสริมสร้างแคลเซียมสำหรับสตรีวัยหมดประจำเดือน ที่ระดับแคลเซียมจะลดลงยังมีวิตามินเคที่ช่วยเสริมให้แคลเซียมทำงานร่วมกับโปรตีนได้ดียิ่งขึ้น ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เสริมสร้างแคลเซียมสำหรับสตรีวัยหมดประจำเดือน ที่ระดับแคลเซียมจะลดลง และยังมีวิตามินเคที่ช่วยเสริมให้แคลเซียมทำงานร่วมกับโปรตีนได้ดียิ่งขึ้น วิตามิน ดี เป็นวิตามินที่ร่างกายต้องการอย่างยิ่ง ดังนั้นการทำงานร่วมกันของวิตามินดีและแคลเซียมจึงช่วยในการเสริมสร้าง กระดูกและฟันให้แข็งแรง สำหรับผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว ร่างกายจะสูญเสียแคลเซียมอย่างมาก ส่วนวิตามินเค มีส่วนช่วยให้แคลเซียมทำงานร่วมกับโปรตีนได้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับเหมาะ สำหรับผู้ที่อยู่ในสภาวะขาด แคลเซียม เช่น เด็กที่กำลังเจริญเติบโต ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ผู้ที่นิยมการบริโภคกาแฟ หรือ ชอบสูบบุหร



9. GIFFARINE Cal-D-Mag 600

GIFFARINE Cal-D-Mag 600


GIFFARINE Cal-D-Mag 600 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แคลเซียม ผสมวิตามินดี 3 วิตามินซี วิตามินอี แมกนีเซียม สังกะสี แมงกานีส และทองแดง ช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันการเป็นตะคริว ลดอาการชาตามปลายมือ ปลายเท้า ที่เกิดจากการขาดแคลเซียม แคลเซียม ที่พอเพียงมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย บำรุงกระดูก การขาดแคลนมีผลทำให้ความสูงหยุดชะงักได้ องค์ประกอบที่จะสูงไม่ได้มาจากแคลเซี่ยม แต่เพียงอย่างเดียว อาหารที่มีแคลเซี่ยมสูงหลากหลายให้เลือก และนมเป็นอาหารที่ท่านง่ายที่สุด ในกรณีที่ทานนมไม่ได้ ก็อาจทานอาหารชนิดอื่นหรืออาหารสุขภาพที่ปลอดภัย ซึ่งเสริมแคลเซี่ยมในบ้านเราก็มีหลายชนิดโดยทานปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป ก็จะเป็นการใส่ใจดูแลทางโภชนาการที่สมบูรณ์



10. Vistra Calplex Calcium 700 Mg Plus Boron

Vistra Calplex Calcium 700 Mg Plus Boron

Vistra Calplex Calcium 700 Mg Plus Boron แคลเซียมโบรอน ลดโอกาสเกิดโรคกระดูก เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ให้แคลเซียมสูง 700 มิลลิกรัม โบรอนจะช่วยเสริมความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูกที่มากขึ้น อีกทั้งยังครบถ้วนด้วยสารอาหารที่เหมาะกับการบำรุงกระดูก เช่น แมกนีเซียม วิตามินดีเค และที่สำคัญยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน แคลเพล็กซ์ พลัส โบรอน จะเข้าไปช่วยเสริมให้กระดูกแข็งแรงมากขึ้น ไม่ทำให้เป็นโรคกระดูกพรุนได้ง่าย โบรอน มีผลต่อความหนาแน่นและความแข็งแกร่งของกระดูก ช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง ซึ่งจะส่งผลต่อกระดูกที่แข็งแรง ลดปริมาณการสลายแคลเซียม และแมกนีเซียม คงความสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีผลต่อกระบวนการสร้างกระดูกที่แข็งแรง ผู้ต้องการบำรุงกระดูก ให้มีความแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน

  • เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
  • เสริมความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก
  • ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน




การเลือกอาหารเสริมแคลเซียม

อาหารเสริมแคลเซียม (Calcium Supplements)
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee

  • เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของแคลเซียมชิเตรท และแคลเซียมแลคเตทกลูโคเนท เพื่อให้ละลายน้ำได้ดี
  • เลือกแคลเซียมที่มีส่วนผสมของวิตามินดีเพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เป็นประโยชน์ต่อกระดูก
  • เลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค
  • เลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมในรูปแบบที่ทานง่าย


ใครเหมาะสำหรับการทานอาหารเสริมแคลเซียม

  • เด็กๆ ที่อยู่ในช่วงอายุ ที่กำลังต้องการ แคลเซียมเพิ่มความสูง
  • ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ ข้อมือ เท้า สะโพก หัก
  • บำรุง ฟื้นฟู โรคกระดูกพรุน กระดูกบาง
  • ปวดข้อเข่าเสื่อม ต้องการบำรุงกระดูก
  • ผู้สูงวัย ที่อาจเกิดโรคขาดแคลเซียม ก่อนมีโรคกระดูกพรุน


ปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละช่วงอายุ

  • อายุ < 40 ปี 800 mg / วัน = นม 3 – 4 แก้ว
  • วัยทอง (~50 ปี) 1000 mg / วัน = นม 4 – 5 แก้ว
  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์, อายุ > 60ปี 1200 mg / วัน = นม 6 – 7 แก้ว
  • ผู้หญิงมีโอกาสกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนมากถึง 30  – 40% ส่วนผู้ชาย 10%


ปัจจัยส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม

  • ความเป็นกรดอ่อน ๆ ในอาหาร แคลเซียมจะละลายได้ง่ายในอาหารที่เป็นกรดอ่อน ๆ
  • แลคโตส ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น 15 – 50% ดังนั้นนมสดจึงเหมาะที่จะเป็นอาหารสำหรับแหล่งแคลเซียม
  • วิตามินดี เป็นตัวเร่งให้มีการสังเคราะห์โปรตีนในชั้นเยื่อมูกของผนังลำไส้ ซึ่งแคลเซียมจะเกาะติดและถูกลำเลียงผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสโลหิต ดังนั้นเมื่อมีวิตามินดี การดูดซึมแคลเซียมที่ลำไส้เกิดได้ดีกว่า วิตามินดีได้จาก 2 แหล่ง คือ จากแสงแดดและอาหารจำพวกปลา ไข่แดง ตับ เนย เป็นต้น


แหล่งอาหารแคลเซียม

  • ปลาและสัตว์เล็กอื่น ๆ  ที่สามารถกินได้ทั้งกระดูกหรือเปลือก  เช่น  ปลาซิว  ปลาเกร็ดขาว ปลาไส้ตัน ปลาซาร์ดีนกระป๋อง  กุ้งฝอย  กุ้งแห้ง ฯลฯ
  • ผักใบเขียว ผักที่มีแคลเซียมสูงและร่างกายนำไปใช้ได้มาก เช่น  ผักกวางตุ้ง  ผักคะน้า ฯลฯ
  • ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองเป็นแหล่งของแคลเซียม  เช่น เต้าหู้แข็ง  เต้าฮวย  (ไม่ใช่เต้าหู้หลอดไข่) ฯลฯ
  • นมและผลิตภัณฑ์นม  เป็นแหล่งของแคลเซียมที่ดี เนื่องจากนมมีปริมาณแคลเซียมสูงและร่างกายนำไปใช้ได้มาก  นม 1 กล่อง (250 ซีซี) ให้แคลเซียม 300 มิลลิกรัม ฉะนั้นการดื่มนม โดยเฉพาะนมพร่องมันเนย หรือไขมันต่ำวันละ 2 กล่อง จะได้แคลเซียมถึง 2ใน 3 ที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน

ประโยชน์ของแคลเซียม

  • แคลเซียมช่วยเสริมสร้าง บำรุงกระดูก และฟันให้แข็งแรง
  • ช่วยซ่อมแซมกระดูกที่สึกหรอ
  • ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจ ให้เต้นเป็นจังหวะ
  • มีส่วนช่วยในการควบคุมคอเลสเตอรอล
  • ป้องกันโรคกระดูกพรุน อย่างที่รู้กันว่าแคลเซียมเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง นั้นจึงมีผลต่อโรคกระดูกพรุนอย่างชัดเจน ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของกระดูกบางหรือเปราะหักง่ายอีกด้วย
  • ช่วยควบคุมการทำงานของประสาท และกล้ามเนื้อได้ดี
  • ช่วยป้องกันอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และตามข้อต่อกระดูกส่วนต่างๆ
  • ใช้ในการควบคุมความดันโลหิต เพราะแคลเซียมจะช่วยกระตุ้นระบบหลอดเลือด
  • บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
  • รักษาอาการอาหารไม่ย่อย
  • ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ จากการใช้แคลเซียมในการยับยั้งเซลล์ที่ผิดปกติให้น้อยลง
  • แก้อาการนอนไม่หลับ
>

เคล็ดลับรักษาลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน

  • ออกกำลังกาย เช่น การวิ่งเหยาะ เดินสลับวิ่ง เต้นแอโรคบิก เดินขึ้นบันได ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือกระโดดเชือก ส่วนในผู้สูงอายุควรเลือกการออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น การรำมวยจีน โดยออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไปจะทำให้กระดูกแข็งแรง
  • ทานแคลเซียมให้เพียงพอ โดยตามคำแนะนำของกรมอนามัย ระบุไว้ว่าผู้ที่อายุน้อยกว่า 50 ปี ควรทานแคลเซียมให้ได้ประมาณ 800 มิลลิกรัมต่อวัน ในขณะที่ผู้ที่มีอายุ 51 ปีขึ้นไป ควรทานแคลเซียมให้ได้ประมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม ในกรณีที่ไม่สามารถทานแคลเซียมให้ได้ปริมาณตามที่กล่าวไปข้างต้น การทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้
  • เติมวิตามินดีให้ร่างกายด้วยการรับแสงแดดยามเช้า เพราะวิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เราจึงควรออกไปรับแสงแดดในช่วงเวลาประมาณ 00-10.00 น. เป็นเวลา 30 นาทีจะช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างวิตามินดีได้มากถึง 200 ยูนิตเลยทีเดียว
  • 5.ลดพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นต้น


ข้อควรระวังในการใช้

  • การใช้แคลเซียมควรให้รับประทานหลังอาหารทันที เพราะความเป็นกรดจะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมให้ดียิ่งขึ้น ยกเว้นแคลเซียมซิเตรตที่ดูดซึมได้ดีในทุกสภาวะ
  • ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแคลเซียมร่วมกับยากลุ่มเตตราไซคลิน หรือธาตุเหล็ก เพราะแคลเซียมจะไปรบกวนการดูดซึมยาทั้ง 2 ชนิดนี้ และแก้ไขด้วยการรับประทานแคลเซียมห่างจากยาทั้ง 2 ชนิดนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง
  • แคลเซียมอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและทำให้ท้องผูกได้ จึงควรรับประทานพร้อมผักและผลไม้ที่มีกากใย พร้อมทั้งดื่มน้ำตามมาก ๆ
  • การให้แคลเซียมแต่ละครั้งไม่ควรให้ผลิตภัณฑ์ที่มีธาตุแคลเซียมมากกว่า 500 มิลลิกรัม เพราะปริมาณนี้เป็นปริมาณที่แคลเซียมถูกดูดซึมได้ดีที่สุด ถ้ามีปริมาณมากกว่านี้ควรแยกเป็น 2-3 มื้อของอาหาร จะถูกดูดซึมได้ดีกว่า
  • ควรรับประทานแคลซียมพร้อมมื้ออาหารเย็น เพราะช่วงเวลากลางคืนเป็นช่วงที่แคลเซียมไหลออกจากกระดูกมากที่สุด ปริมาณแคลเซียมที่สูงขึ้นจะป้องกันการไหลออกจากกระดูก ป้องกันไม่ให้กระดูกบางได้

อาหารเสริมแคลเซียม (Calcium Supplements)
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee


บทสรุป

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมถือเป็นอาหารเสริมที่สำคัญในแต่ละช่วงวัย เพื่อประโยชน์สูงสุด ก่อนตัดสินใจซื้ออาหารเสริมแคลเซียมมารับประทาน ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เช่น ประเภทแคลเซียม ปริมาณแคลเซียมที่จะได้รับ หรือมีส่วนประกอบของอะไรบ้างในแต่ละยี่ห้อเพื่อที่จะได้รับประทานได้อย่างเหมาะสม พอดี ไม่ขาดไม่เกิน และที่สำคัญ ควรซื้ออาหารเสริมแคลเซียมยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีอย. เพื่อรองรับความปลอดภัย


อาหารเสริมแคลเซียม ยี่ห้อไหนดี, อาหารเสริมแคลเซียม pantip, อาหารเสริมแคลเซียม ผู้สูงอายุ, เมนูอาหารเสริมแคลเซียม, 15 อาหาร แคลเซียมสูง, อาหารเสริมแคลเซียมคนท้อง, แคลเซียมยี่ห้อไหนดี 2563 pantip, อาหารเสริมแคลเซียมเพิ่มความสูง

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น